สำนักข่าวเอพีรายงานความคืบหน้า เหตุจลาจลใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อประท้วงการกระทำที่เกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้นายจอร์จ ฟลอยด์ คนผิวสีเสียชีวิต รวมทั้งการสังหารคนผิวสีอื่นๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสหรัฐอเมริกา ที่ยังคงมีการชุมนุมประท้วงกันในหลายเมืองทั่วสหรัฐ เมื่อช่วงคืนวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ข่าวระบุว่า การประท้วงที่ยืดเยื้อมานานหลายวัน เริ่มลุกลามไปในหลายเมือง ทั้งนิวยอร์ก ไปถึงเมืองทัลซา และลอสแองเจลิส มีรายงานรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกจุดไฟเผา โดยมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งฝั่งผู้ประท้วง และฝั่งของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ การประท้วงล่าสุดในสหรัฐนี้ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังตำรวจจับกุมตัวนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี และใช้เข่าล็อกคอเอาไว้จนนายฟลอยด์หมดลมหายใจและเสียชีวิตในที่สุด เหตุเกิดที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ทำให้ประชาชนไม่พอใจและลุกขึ้นมาชุมนุมประท้วงทำลายข้าวของตามอาคารต่างๆ ในเมืองมินนิแอโพลิส ก่อนที่การประท้วงจะเริ่มบานปลายไปในกว่าสิบเมืองทั่วประเทศในตอนนี้
ข่าวระบุว่า การประท้วงตามท้องถนนในหลายเมืองพบว่า ประชาชนที่ออกมาประท้วงต่างไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย และไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม ตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยหลังเหตุประท้วงจลาจลอย่างหนักเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันชุมนุมอย่างสันติในหลายเมือง ก่อนที่สถานการณ์จะกลับมารุนแรงอีกครั้งในช่วงคืนที่ผ่านมา
