สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า สถานการณ์ปั่นป่วนจากการชุมนุมประท้วงและก่อเหตุจลาจลสืบเนื่องจากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายอเมริกันผิวดำวัย 46 ปี ขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวโดยการใช้เข่ากดก้านคอลงกับพื้นนานเกือบ 9 นาที ยังคงเกิดและลุกลามอย่างต่อเนื่องออกไปในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศเป็นวันที่ 6 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ จนเป็นเหตุให้เกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ประท้วงถึงกับต้องประกาศเคอร์ฟิวแล้ว 40 เมือง แม้ว่าการชุมนุมส่วนใหญ่จะเป็นไปโดยสงบก็ตามที กระทรวงกลาโหมต้องระดมกองกำลังรักษาดินแดน เข้ารับมือกับการประท้วงใน 15 รัฐกับวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงมากถึง 5,000 นาย โดยมีคำสั่งให้อีก 2,000 นายเตรียมพร้อมรอรับคำสั่งอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เคอร์ฟิวและกองทหารรักษาดินแดนก็ไม่สามารถระงับเหตุรุนแรงได้ เกิดการปะทะและเกิดเหตุทำลายและปล้นสะดมร้านรวงต่างๆ ขึ้นหลายจุดในบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์, วอชิงตัน ดี.ซี. และที่ เธิร์ด สตรีท พรอมเมอนาด เมืองซานตาโมนิกา กับย่านลองบีช ของลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เหตุจลาจลมักเกิดตามหลังการเดินขบวนหรือชุมนุมประท้วงอย่างสันติไม่นานก่อนหน้าการประท้วงจะสลายตัวก่อนถึงช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าง 18.00 น.ถึง 06.00 น.
ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กลุ่มผู้ประท้วงบุกเข้าไปชุมนุมในสวนสาธารณะเล็กๆ ที่อยู่ติดกับทำเนียบขาว เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ซ้ำๆ หลายครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา, ระเบิดเสียงและสเปรย์พริกไทยเป็นอาวุธเพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงที่จุดกองไฟขนาดใหญ่ขึ้นหลายกองและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินบางส่วน เหตุรุนแรงยังเกิดขึ้นหลายจุดที่บอสตัน เมื่อผู้ประท้วงขว้างปาขวดน้ำเข้าใส่เจ้าหน้าที่ และจุดไฟเผารถตำรวจคันหนึ่งได้รับความเสียหายทั้งคัน
ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากเดินขบวนผ่านศูนย์กักกันนักโทษ ที่พากันโบกเสื้อส่งเสียงเชียร์จากหน้าต่างเล็กๆ ของห้องขังตอบรับเสียงตะโกนของผู้ประท้วง “ไม่มีความยุติธรรมก็ไม่มีสันติ” แต่ที่ มินนีแอโปลิส จุดต้นเหตุการประท้วงที่ลุกลามออกไปทั่วประเทศครั้งนี้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นกับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งรวมตัวกันอยู่บนถนนสาย ไอ-35 ที่ทางการสั่งปิดการจราจรในช่วงบ่าย เมื่อรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งเข้าใส่กลางฝูงชนที่พากันแตกหนีจ้าละหวั่นโดยไม่มีผู้ใดถูกชน ก่อนช่วยกันดึงตัวคนขับรถรายนั้นออกมาทุบตีแล้วนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมินนีแอโปลิส
ที่นิวยอร์กซิตี เกิดเหตุปะทะที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บเล็กน้อย 30 นาย จับกุมผู้ประท้วงไว้ 350 คน รวมทั้ง เคียรา เดบลาซิโอ บุตรีวัย 25 ปีของนาย บิล เดบลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ที่ถูกสั่งให้เดินทางไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ก่อนปล่อยเป็นอิสระ นายเดบลาซิโอ ยังสั่งการให้สอบสวนกรณีรถตำรวจคันหนึ่งพุ่งเข้าใส่ผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจกระชากหน้ากากของผู้ประท้วงออกมาแล้วฉีดสเปรย์ใส่อีกด้วย
การประท้วงยังเกิดขึ้นในชิคาโก, ซีแอตเติล, ซอลท์เลคซิตี, คลีฟแลนด์ และดัลลัส ผู้ประท้วงไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะคนผิวดำเท่านั้นแต่มีหลากหลายทั้งคนขาวและกลุ่มฮิสแปนิก มีรายงานว่าในช่วงการชุมนุมประท้วงที่ผ่านมามีผู้ถูกจับกุมไปแล้วมากกว่า 4,000 คน
