ปูติน ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังน้ำมันดีเซล 2 หมื่นตันรั่วลงแม่น้ำ

ปูติน ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังน้ำมันดีเซล 2 หมื่นตันรั่วลงแม่น้ำ

นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากน้ำมันดีเซล ปริมาณมหาศาลถึง 20,000 ตัน หรือราว 20 ล้านลิตร รั่วไหลลงสู่แม่น้ำในภูมิภาคอาร์คติค เซอร์เคิล ในประเทศรัสเซีย กลายเป็นวิกฤตการณ์ด้านมลพิษครั้งใหญ่ของรัสเซีย

รายงานระบุว่าน้ำมันดังกล่าวรั่วไหลมาจากถังน้ำมันของโรงไฟฟ้าของบริษัท โนริลสค์ นิคเกิล ในเมืองโนริลสค์ ตอนเหนือของประเทศรัสเซีย โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิตนิคเกิลและพาราเดียม รายใหญ่ของโลก
ล่าสุดทางการรัสเซียได้เปิดให้มีคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางอาญาวาใครที่เป็นผู้ปล่อยปละละเลยทำให้เกิดเหตุการณ์นำมันรั่วไหลเป็นวิกฤตมลพิษครั้งใหญ่ของประเทศขึ้น โดยเบื้องต้นพบว่าชั้นดินน้ำแข็งที่ทรุดตัวใต้ถังเก็บน้ำมันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมันปริมาณมหาศาลรั่วไหลออกมา

รายงานระบุว่าประธานาธิบดีปูติน ไม่พอใจอย่างยิ่งเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ทางการเพิ่งทราบว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในวันที่ 31 พฤษภาคม หลังจากผ่านไปแล้วถึง 2 วัน ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานระบุว่าโรงไฟฟ้าโนริลสค์ พยายามแก้ไขการรั่วไหลเป็นเวลา 2 วันก่อนที่จะแจ้งทางการ

Advertisement

ทั้งนี้น้ำมันดีเซลที่รั่วไหลปนเปื้อนพื้นที่กว้างถึง 350 ตารางกิโลเมตรแล้ว โดยนับเป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซียยุคใหม่ หากมองแง่ของปริมาณน้ำมัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ารัสเซียอาจต้องใช้เงินในการทำความสะอาดถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 47,300 ล้านบาทและอาจต้องใช้เวลานานตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image