สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกกำลังเพิ่มมากขึ้น และเรียกร้องให้สมาชิกกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ (จี20) บางแห่งเพิ่มงบประมาณรายจ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนหน้าที่ผู้ว่าการธนาคารกลางและรัฐมนตรีคลังของกลุ่มจี20 จะประชุมกันที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนในวันที่ 23 กรกฎาคม เพื่อหารือกันถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากการต้องเผชิญความไม่แน่นอนใหม่ในเรื่องที่อังกฤษลงมติออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือที่เรียกกันว่าเบร็กซิท
รายงานของไอเอ็มเอฟที่เผยแพร่ก่อนหน้าการประชุมจี20 ระบุว่า “อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอและความเสี่ยงขาลงเริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดมากขึ้น การเติบโตอาจชะลอตัวลงอีกหากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เพิ่มขึ้นจากผลการลงประชามติเบร็กซิทยังคงดำเนินต่อไป”
ในการปรับข้อมูลตัวเลขจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายน ไอเอ็มเอฟปรับลดประมาณการอัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าลง 0.1 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 3.1 เปอร์เซ็นต์และ 3.5 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังอังกฤษระบุว่า นายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของอังกฤษที่เป็น 1 ในผู้เข้าร่วมประชุมจะส่งสารในการประชุมครั้งนี้ว่า อังกฤษยังคงเปิดกว้างสำหรับการทำธุรกิจ ขณะที่ไอเอ็มเอฟต้องการให้ประเทศพัฒนาแล้วอย่างเยอรมนีและสหรัฐอเมริกาใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้นเพื่อช่วยกระตุ้นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
แต่ยังมีความท้าทายอื่นๆ อีกนอกจากเบร็กซิท คือการก่อการร้าย ตุรกี และทรัมป์ โดยเพิ่งจะเกิดเหตุโจมตีด้วยการขับรถบรรทุกไล่ชนผู้คนในวันชาติฝรั่งเศสที่เมืองนีซทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 84 ราย และเหตุกราดยิงเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมในนครมิวนิก ประเทศเยอรมนีที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 9 ราย
ความพยายามรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลตุรกีของประธานาธิบดีเรชิป เทย์ยิป แอร์ดวน ที่ล้มเหลวและทำให้เกิดการกวาดล้างครั้งใหญ่ตามมาจนพันธมิตรชาติตะวันตกของตุรกีต้องออกมาส่งเสียงเตือน อีกทั้งหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันมีคะแนนสูสีกับนางฮิลลารี คลินตัน ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะยิ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นอีก
นายแจ็ค ลูว์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญสำหรับจี20 ที่ต้องเพิ่มความพยายามในการกระตุ้นอัตราการเติบโตเป็น 2 เท่าโดยใช้เครื่องมือทางนโยบายทั้งหมดเท่าที่มี ขณะที่รัฐมนตรีคลังหลายรายที่เข้าร่วมในการประชุมนี้กล่าวว่าจี20 จำเป็นต้องร่วมมือกันมากขึ้นในการแบ่งปันข้อมูลและปรับปรุงกฎระเบียบด้านภาษีให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันการใช้ช่องว่างในการหลบเลี่ยงภาษีของบริษัทข้ามชาติ
