สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ในลาตินอเมริกาพุ่งทำสถิติใหม่อีกครั้ง หลังยอดผู้เสียชีวิตรวมในลาตินอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นทะลุ 70,000 รายแล้ว
บราซิลมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือเกือบ 40,000 คน หรือคิดเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตในลาตินอเมริกาทั้งหมด ขณะที่เม็กซิโกยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะ 15,000 ราย ส่วนเปรูมีผู้เสียชีวิตเกือบ 6,000 ราย
ทวีปอเมริกายังคงเป็นศูนย์กลางในการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตในทวีปอเมริกาเหนือและใต้รวมกัน มีผู้เสียชีวิตเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกในขณะนี้กว่า 418,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในหลายประเทศในลาตินอเมริกาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกในช่วงเช้าวันที่ 11 มิถุนายนอยู่ที่ 418,126 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5,154 รายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 115,129 ตามด้วยอังกฤษที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตทะลุ 4 หมื่นรายไปอยู่ที่ 41,128 บราซิล 39,797 อิตาลี 34,114 ฝรั่งเศส 29,319 สเปน 27,136 และเม็กซิโก 14,649
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 7,444,646 โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 133,122 คนในหนึ่งวันที่ผ่านมา ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือบราซิลที่ 33,100 ตามด้วยสหรัฐ 20,033 อินเดีย 12,375 รัสเซีย 8,404 ชิลี 5,737 ปากีสถาน 5,385 และเปรู 5,087
ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดยังคงเป็นสหรัฐที่ 2,065,582 บราซิล 775,184 รัสเซีย 493,657 อังกฤษ 290,143 สเปน 289,360 อินเดีย 287,155 อิตาลี 235,763 เปรู 208,823 เยอรมนี 186,866 อิหร่าน 177,938 ตุรกี 173,036 ฝรั่งเศส 155,136 ชิลี 148,496 เม็กซิโก 124,301 ปากีสถาน 113,702 และซาอุดีอาระเบีย 112,288
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 3,722,560 คน
