เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานภาวะการซื้อขายหุ้นในตลาดทั่วภูมิภาคเอเชียว่าตลาดแกว่งตัวขึ้นลงอย่างหนักตลอดช่วงการซื้อขายจากปัจจัยหลากหลายขัดแย้งกันที่ทำให้นักลงทุนต้องชั่งน้ำหนักและลงทุนอย่างระมัดระวังตัว ทั้งสัญญาณส่อการฟื้นตัวใหม่ๆ ของเศรษฐกิจโลก สัญญาณการระบาดของโควิด-19 รอบที่ 2 ทั้งในจีน ในญี่ปุ่นและที่รัฐเท็กซัสสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันก็มีความตึงเครียดระหว่างประเทศ ส่งผลให้เกิดการเทขายทำกำไรต่อเนื่องตลอดวันอีกด้วย
ทั้งนี้แม้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น จะประกาศความช่วยเหลือระลอกใหม่เริ่มต้นซื้อหุ้นกู้และตราสารหนี้ของบริษัทธุรกิจ แต่ทัศนะของ นายเจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟดก็ยังออกมาเตือนว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยในการฟื้นตัว โดยมีความไม่แน่นอนสูงในระดับที่มีนัยสำคัญ ส่งผลให้การฟื้นตัวอย่างเต็มที่ไม่น่าจะเป็นไปได้จนกว่าผู้บริโภคจะมีความรู้สึกว่าสามารถเอาชนะโควิด-19 ได้เด็ดขาดแล้ว และเตือนด้วยว่าไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะเป็นไตรมาสที่เศรษฐกิจทรุดหนักเป็นประวัติการณ์อีกด้วย
ภาวะผันผวนส่งผลให้ดัชนีของหลายตลาดแม้จะยังปรับตัวสูงขึ้นแต่ก็ไม่มากเท่ากับการดีดขึ้นแรงของวันก่อนหน้า ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงปรับขึ้นเพียง 0.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนดัชนีนิกเกอิ 225 ของโตเกียวลดลง 0.7 เปอร์เซ็นต์หลังการปรับขึ้นรวดเดียวเกือบ 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดเซี่ยงไฮ้,ซิดนีย์ และสิงคโปร์ ปรับลดลงเล็กน้อย 0.1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดเวลลิงตันพุ่งขึ้นรวดเดียวกว่า 2 เปอร์เซ็นต์
ราคาน้ำมันยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ น้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ของสหรัฐอเมริกาลดลง 2.0 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 37.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ ลดลง 1.5 เปอร์เซ็นต์ ยังคงอยู่ในระดับ 40.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
