องค์การอนามัยโลกระบุว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 กำลังเพิ่มขึ้นในประเทศใหญ่หลายประเทศในเวลาเดียวกัน และมีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้ออย่างน่าวิตกกังวลในลาตินอเมริกา โดยเฉพาะในประเทศบราซิล
นายไมค์ ไรอัน หัวหน้าฝ่ายฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการแพร่ระบาดกำลังกระจายออกไปในประเทศที่มีประชากรจำนวนมากในเวลาเดียวกัน และกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลกอีกด้วย
ไรอันรับว่า จำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในบางประเทศอาจมาจากการเพิ่มขึ้นของการตรวจสอบเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อ อย่างเช่นประเทศอินเดียที่มีการเพิ่มปริมาณการตรวจสอบมากขึ้น อย่างไรก็ดีในภาพรวมแล้วเขาไม่ได้คิดว่าการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากการตรวจหาผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ปัจจุบันมีปริมาณผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในชิลี อาร์เจนตินา โคลอมเบีย ปานามา โบลิเวีย กัวเตมาลา รวมถึงบราซิล ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อทะลุ 1,000,000 คนไปแล้ว เป็นรองเพียงแค่สหรัฐเท่านั้น โดยไรอันกล่าวว่า ตัวเลขการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในบราซิลอาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงระบบการรายงานผู้ป่วย
ใบราซิลถือว่าการตรวจสอบหาผู้ป่วยยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบถือว่าอยู่ในระดับสูง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากประเด็นดังกล่าวแล้วสามารถพูดได้ว่าผลการตรวจที่เกิดขึ้นไม่ได้สะท้อนภาพรวมทั้งหมด และจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีอยู่ในขณะนี้ยังต่ำกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริง โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตในบราซิลยังสูงกว่า 1,000 คนต่อวันในช่วงเดือนที่ผ่านมาอีกด้วย
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกระบุว่า การขาดผู้นำในระดับโลกรวมถึงความเป็นเอกภาพในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดและร้ายแรงมากกว่าการแพร่ระบาดเอง ขณะที่การเมืองก็ยิ่งทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายมากขึ้นอีก
ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกตกเป็นเป้าในการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาติสมาชิกบางประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐว่าทำงานอ่อนแอเกินไป และล่าช้าเกินไป รวมถึงยังมีจีนเป็นศูนย์กลางมากเกินไปในการจัดการกับการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น