รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาแถลงว่า ได้เปิดให้มีการสอบสวนการนำเข้ายางรถยนต์จาก เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ไทยและเวียดนาม ที่มีมูลค่ารวม 4,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อดูว่า ยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ถูกขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็เข้าข่ายการเอาเปรียบทางกาคค้าด้วยการทุ่มตลาด
ถ้อยแถลงดังกล่าวยังระบุด้วยว่า จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมว่า ผู้ผลิตยางในเวียดนาม ได้รับการอุดหนุนทางการเงินที่ไม่เป็นธรรมในการผลิตยางรถยนต์และยางสำหรับรถบรรทุกขนาดเบาหรือปิคอัพ
ทั้งนี้การสอบสวนดังกล่าวนี้มีขึ้นหลังจากกระทรวงได้รับการร้องเรียนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจาก ยูไนเต็ด สตีลเวิร์กเคอร์ส (ยูเอสดับเบิลยู) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของแรงงานโรงงานผลิตยางรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา นายทอม คอนเวย์ ประธานยูเอสดับเบิลยู อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่า แม้ความต้องการยางรถปิคอัพในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้น แต่ผู้ผลิตอเมริกันกลับมีสัดส่วนการตลาดลดน้อยลง กำไรลดและต้องสูญเสียงานไป
ทั้งนี้สหรัฐอเมริกานำเข้ายางจากประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ และอีก 1,200 ล้านดอลลาร์ จากเกาหลีใต้ รวม 85.3 ล้านเส้น เมื่อปี 2019 เพิ่มขึ้นจากปี 2017 เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์
ตามข้อกล่าวหาในคำร้องเรียน ผู้ผลิตเกาหลีใต้หั่นราคาลงเพื่อทุ่มตลาดระหว่าง 43 เปอร์เซ็นต์ถึง 195 เปอร์เซ็นต์, ไต้หวัน 21-116 เปอร์เซ็นต์, ไทย 106-217 เปอร์เซ็นต์ และเวียดนาม 5-22 เปอร์เซ็นต์
