สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลการสำรวจของนักวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ ไคลเมท เชนจ์ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ระบุว่า ขั้วโลกใต้ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่หนาวเย็นที่สุดของโลก กำลังมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ขั้วโลกใต้ร้อนขึ้นสูงกว่าอัตราการร้อนขึ้นของโลกถึง 3 เท่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จนถึง 2018 ที่ถือว่าอุณหภูมิสูงที่สุดนับตั้งแต่เคยมีการบันทึกสถิติมา
โดยผลการวิจัยจากข้อมูลที่ได้จากสถานีตรวจวัดอุณหภูมิ 20 แห่ง ทั่วทวีปแอนตาร์กติก พบว่า ขั้วโลกใต้มีอัตราการเพิ่มขึ้นอุณหภูมิสูงขึ้น 7 เท่า มากกว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งหมดของทวีปแอนตาร์กติก
ไคล์ เคลม หนึ่งในทีมวิจัย และทีมงาน บอกว่า พวกตนต้องการจะอธิบายว่า เหตุใดน้ำแข็งในขั้วโลกใต้เริ่มได้มีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากช่วงหนาวเย็นในช่วงทศวรรษ 1970-1980 และอยากรู้ว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปตามธรรมชาติ หรือเป็นเพราะภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นเนื่องจากการกระทำของมนุษย์ และคำตอบที่ได้คือ ทั้ง 2 อย่าง
ส่วนหนึ่งคือการที่ขั้วโลกใต้มีอุณหภูมิสูงขึ้น เป็นผลมาจากธรรมชาติ เนื่องจากอุณหหภูมิที่สูงขึ้นบริเวณแปซิฟิกตะวันตก ที่ถูกผลักดันไปทางตอนใต้ด้วยไซโคลนไปสู่ผืนน้ำที่เป็นน้ำแข็งในทะเลเวดเดลล์ นอกคาบสมุทรแอนตาร์กติก
อีกส่วนก็คือ ผลจากฝีมือของมนุษย์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลก ที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน
