หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเผาตัว! ประท้วง ตร.ยูกันดารีดเงินสินบน แลกรถถูกยึด

แฟ้มภาพเอเอฟพี

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า หนุ่มขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างชาวยูกันดา อายุ 29 ปี จุดไฟเผาตัวเองประท้วง ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งจนตนเองเสียชีวิต โดยกลุ่มคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างอ้างว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้ได้จุดไฟเผาตัวเองเพราะถูกตำรวจเรียกเงินสินบนจำนวน 40 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,200 บาท) เพื่อแลกกับรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่ถูกตำรวจยึดไป

บีบีซีรายงานว่า นายฮุสเซน วาลูเกมเบ ผู้ก่อเหตุจุดไฟเผาตัวเองที่สถานีตำรวจ ได้ถูกยึดรถมอเตอร์ไซค์ไปที่เขตมาซากา ห่างจากกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของยูกันดาไปราว 135 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากนายวาลูเกมเบได้นำมอเตอร์ไซค์ของตนเองไปให้เพื่อนยืมขับ โดยที่เพื่อนของเขานำไปรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของทางการยูกันดาที่ห้ามรถมอเตอร์ไซค์ขับรับส่งผู้โดยสาร หนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในยูกันดา แต่ทางการอนุญาตให้วิ่งขนส่งสินค้าได้ระหว่างเวลา 06.30-17.00 น.ในแต่ละวัน นั่นจึงเป็นผลให้รถมอเตอร์ไซค์ของนายวาลูเกมเบถูกตำรวจยึดไป

ข่าวแจ้งว่า ในวันเกิดเหตุนายวาลูเกมเบโกรธเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก หลังจากที่เขาไปที่สถานีตำรวจหลายครั้งแล้วเพื่อขอคืนรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง แต่ไม่เป็นผล กระทั่งในวันที่ 2 กรกฎาคม นายวาลูเกมเบได้เข้าไปในห้องพักของสถานีตำรวจและปิดห้องเอาไว้ ก่อนใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ตนเองเตรียมมาราดและจุดไฟเผาตัวเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจได้รีบช่วยกันดับไฟ โดยมีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้รับบาดเจ็บด้วยเล็กน้อย ส่วนเอกสารและคอมพิวเตอร์ได้รับความเสียหาย แต่นายวาลูเกมเบเสียชีวิต

ด้านโฆษกตำรวจของยูกันดากล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงที่มีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเงินสินบนจากผู้ตายด้วย

Advertisement

ทั้งนี้ รัฐบาลยูกันดาได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่ยังคงคุมเข้มกับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ในยูกันดาเรียกว่า “โบดา โบดา” โดยชี้ว่าหากอนุญาตให้รถโบดา โบดารับส่งผู้โดยสารในระยะเวลานี้ อาจจะทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดมากไปอีกได้

โดยขณะนี้ยูกันดามีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 900 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image