สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการรัฐวิกตอเรีย รัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ประชากรราว 3,000 คน ที่อยู่ในอาคารที่อยู่อาศัย 9 แห่ง แม้ว่าจำนวนตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 จะเพิ่มมากขึ้น หลังจากเพิ่งมีการล็อกดาวน์ไปเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายแดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีแห่งรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า หลังจากการตรวจประชากรทั้ง 3,000 คน ผู้คนในอาคารสูง 8 แห่ง จะสามารถออกจากที่อยู่อาศัยได้หากมีความจำเป็น แต่ยังมีอยู่อาคารหนึ่งที่จะยังคงต้องล็อกดาวน์เอาไว้ เนื่องจากตรวจพบผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่พบว่ามีการติดเชื้อเนื่องจากมีความใกล้ชิดกัน
ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียเพิ่งจะมีการล็อกดาวน์ เพื่อจำกัดการเดินทางของประชากรเกือบ 5 ล้านคน เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อทำงาน ซื้ออาหารหรือเพื่อหาหมอเท่านั้น
