สื่อแคนาดารายงานเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมว่า “We Charity” เป็นองค์กรการกุศลที่กำลังตกเป็นเป้าสำคัญของการสอบสวนกรณีจ่ายเงินในการกล่าวปาฐกถาในงานต่างๆ ให้กับคนในครอบครัวของนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่กำลังถูกคณะกรรมการส่งเสริมจริยธรรมของแคนาดาทำการสอบสวนว่ากระทำการอันใดที่เป็นการประพฤติผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่
โดยบรรษัทกระจายเสียงแคนาดา (ซีบีซี) รายงานอ้างว่า We Charity ได้จ่ายเงินให้กับนางมาร์กาเร็ต ทรูโด มารดาของนายกรัฐมนตรีแคนาดา เป็นเงินจำนวนรวม 250,000 ดอลลาร์แคนาดา สำหรับการร่วมงานแสดงปาฐกถารวม 28 งาน ในระหว่างปี 2016-2020 ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ We Charity ก่อนหน้านี้ว่าทางองค์กรไม่เคยจ่ายเงินดังกล่าวที่เป็นการสมนาคุณให้กับนางมาร์กาเร็ต ทรูโด แต่อย่างใด
ซีบีซียังรายงานอ้างต่อไปว่า We Charity ยังจ่ายเงินให้นายอเล็กซองดร์ น้องชายของนายกรัฐมนตรีทรูโด จำนวน 32,000 ดอลลาร์ จากการเข้าร่วมงานต่างๆ 8 ครั้ง
ซีบีซีอ้างอีกว่าทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดายังยืนยันว่านางโซฟี ภรรยาของนายกรัฐมตรีทรูโด ได้รับเงินจำนวน 1,500 ดอลลาร์ จากการเข้าร่วมงาน “We” ในปี 2012 ก่อนที่นายทรูโดจะเข้ารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมด้วย
การตีแผ่ข้อมูลนี้ของสื่อแคนาดามีขึ้นหลังจากคณะกรรมการส่งเสริมจริยธรรมของแคนาดา ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมว่า คณะทำงานได้เปิดการสอบสวนนายกรัฐมนตรีทรูโดแล้ว หลังเกิดประเด็นถกเถียงเรื่องสัญญาการดำเนินโครงการใหญ่ของรัฐบาลแคนาดาที่ทาง We Charity ได้สัญญาว่าจ้างดังกล่าวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ We Charity ออกมาประกาศว่าทางองค์กรจะถอนตัวออกจากโครงการของรัฐบาลดังกล่าวที่มีมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ ที่เป็นการจัดหาทุนช่วยเหลือสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ ให้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมทำงานเป็นอาสาสมัครให้กับองค์กรเอ็นจีโอต่างๆ ในระหว่างเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ
ด้านทำเนียบนายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ระบุว่าการดำเนินการใดๆ ของเครือญาติของนายกรัฐมนตรีแคนาดากับองค์กรต่างๆ เป็นสิ่งที่พวกเขาดำเนินการด้วยตัวเอง และย้ำว่าสิ่งสำคัญที่จะต้องจดจำคือนี่เป็นเรื่องของงานการกุศลที่สนับสนุนกลุ่มนักศึกษา
ก่อนหน้านี้คณะกรรมการส่งเสริมจริยธรรมได้เผยแพร่รายงาน 2 ฉบับที่บ่งชี้ว่านายทรูโดละเมิดกฎหมายว่าด้วยผลประโยชน์ทับซ้อนในปี 2017 จากการไปเที่ยวพักผ่อนบนเกาะส่วนตัวของ อากา ข่าน ที่ 4 อิหม่ามแห่งนิซารี อิสมาอีลียะฮ์ และในปีที่แล้วเขายังพยายามใช้อิทธิพลแทรกแซงกระบวนการทางกฎหมายในคดีเอสเอ็นซี-ลาวาลิน ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าติดสินบนเพื่อให้ได้รับสัมปทานหลายโครงการในประเทศลิเบีย
