เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เอมิเรตส์แอร์ไลน์ สายการบินประจำชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเป็นสายการบินยักษ์ใหญ่สุดในตะวันออกกลาง มีแผนที่จะปลดพนักงานออกอีก 9,000 คน หรือคิดเป็นราว 15 เปอร์เซ็นต์ หลังจากก่อนหน้านี้สายการบินเอมิเรตส์ได้ปลดพนักงานออกไปแล้ว 1 ใน 10 ของพนักงานที่มีอยู่หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สายการบินเอมิเรตส์ที่มีฝูงเครื่องบินโดยสาร 270 ลำ ได้หยุดทำการบินไปในช่วงปลายเดือนมีนาคมหลังจากหลายชาติต่างดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ประเทศจนส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการบิน ก่อนที่เอมิเรตส์จะกลับมาให้บริการในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา แต่เป็นไปแบบจำกัด โดยเอมิเรตส์มีแผนที่จะให้บริการเที่ยวบินไปยัง 58 เมืองภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้ จากที่ก่อนหน้าเกิดวิกฤตสายการบินเอมิเรตส์มีเที่ยวบินให้บริการไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ราว 157 แห่ง
ก่อนหน้านี้ นายทิม คลาร์ก ประธานบริษัทสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า อาจใช้เวลาถึง 4 ปีกว่าที่การดำเนินงานของทางสายการบินจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้ในส่วนหนึ่ง และทางสายการบินเอมิเรตส์เองยังกำลังปลดพนักงานออก เมื่อเร็วๆ นี้ แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวน ขณะที่ในรายงานประจำของเอมิเรตส์ระบุว่าเอมิเรตส์มีพนักงานอยู่ราว 60,000 คน ในจำนวนนี้ 4,300 คน เป็นนักบิน และอีก 22,000 คนเป็นลูกเรือ
ขณะที่ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีล่าสุด คลาร์กเปิดเผยว่า เอมิเรตส์ได้ตัดลดพนักงานลงไปแล้ว 1 ใน 10 และอาจจะต้องปลดพนักงานออกอีก ซึ่งบางทีอาจมากถึง 15 เปอร์เซ็นต์
ด้านสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) ประเมินว่าในปีนี้ผู้ประกอบธุรกิจการสายการบินจะเผชิญภาวะขาดทุนรวมกันเป็นมูลค่ามากกว่า 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลจากวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือว่ามากที่สุดครั้งประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมสายการบิน
