บัวแก้วเร่งชี้แจงโลกกรณีพีต้ากล่าวหาไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าว ย้ำไทยมีพรบ.คุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างประเทศกรณีพีต้านำเสนอรายงานเรื่องการที่ประเทศไทยใช้ลิงในการเก็บมะพร้าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยให้ทำความเข้าใจกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะต่อผู้บริโภคและผู้นำเข้าสินค้าไทย รวมทั้งให้ติดตามสถานการณ์ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) อย่างใกล้ชิด

นายเชิดเกียรติกล่าวว่า ข้อมูลการชี้แจงมาจากผลการประชุมเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานการหารือร่วมกับภาครัฐ เอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปยืนยันว่าสมาชิกที่เป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์กะทิไทยไม่มีการใช้แรงงานลิงเก็บมะพร้าว และสองบริษัทที่ถูกพีต้าพาดพิง คือบ.เทพผดุงพรมะพร้าว และ บ.ไทย อะกริฟู้ดส์ ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)กับผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายสินค้าไทยในต่างประเทศ เพื่อรับรองว่าปลอดการใช้ลิง รวมทั้งทำเอ็มโอยูกับล้งและผู้ส่งผลผลิตว่าจะไม่รับซื้อมะพร้าวจากสวนที่ใช้แรงงานลิง โดยได้สุ่มตรวจล้งและสวนมะพร้าวเป็นระยะ นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้บริโภค ภาคเอกชนจะเพิ่มระบบตรวจสอบย้อนกลับบนบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเช็คแหล่งที่มาวัตถุดิบถึงสวนมะพร้าว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ในการชี้แจงได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญแก่การดูแลสวัสดิภาพของลิง ในปัจจุบันมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และ พรบ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ เป็นต้น สำหรับการใช้แรงงานลิงในบางพื้นที่ทางภาคใต้ของไทยนั้น เป็นไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมที่ต้องการความมีประสิทธิภาพและทันสมัย นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะพัฒนาแนวทางการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสม รวมทั้งข้อร้องเรียนและพร้อมดำเนินคดีหากพบความผิด

นายเชิดเกียรติกล่าวอีกว่า จากการที่กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานแนวทางการชี้แจงไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทุกแห่งทั่วโลก ในชั้นนี้ได้มีการดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวแล้ว เช่น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ได้ออกข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวกับสาธารณชนและสื่อท้องถิ่นที่รายงานข่าวเรื่องนี้ พร้อมชี้แจงประเด็นวิถีชีวิตและภูมิปัญญาพื้นบ้าน ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมะพร้าวหรือผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวของไทย ทั้งนี้การละเมิดหรือทารุณกรรมสัตว์เป็นปัญหากรณีบุคคล ซึ่งไทยมีกฎหมายบังคับใช้และลงโทษผู้ละเมิดเป็นรายกรณีอยู่แล้ว

Advertisement

นายเชิดเกียรติกล่าวว่า ในส่วนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ขอให้ทีมประเทศไทยร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยนายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับฝ่ายอังกฤษในโอกาสต่างๆ และสำนักงานการค้าต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอนได้มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ทุกรายด้วยแล้ว รวมทั้งจะได้เข้าพบกับผู้บริหารธุรกิจร้านค้าและบริษัทผู้นำเข้ารายใหญ่เพื่อชี้แจงเพิ่มเติมด้วย

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังกล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ห้างสรรพสินค้าในเยอรมนีบางแห่งจะร่วมแบนกะทิจากไทย โดยเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 นว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิดร่วมกับ สคต. และจะเดินหน้าชี้แจงภาคธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเยอรมนีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image