“ฮ่องกง” หวนใช้มาตรการเว้นระยะห่าง หวั่น “โควิด” ระบาดระลอกสาม!

นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ขณะแถลงประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม (รอยเตอร์)

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กลับมาประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอีกครั้ง ซึ่งจะมีผลนับจากวันที่ 15 กรกฎาคม ด้วยการห้ามการรวมกลุ่มกันอยู่ในที่สาธารณะเกิน 4 คน การสั่งปิดธุรกิจบางประเภท และควบคุมร้านอาหารต่างๆ ให้สามารถขายอาหารให้แก่ลูกค้าแบบสั่งกลับบ้านได้เท่านั้นตั้งแต่เวลา 18.00-05.00 น.ของวัน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สาม ซึ่งมีขึ้นหลังจาก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนขึ้นอีก ซึ่งทางการฮ่องกงเชื่อว่ามีการแพร่เชื้อที่ยังตรวจไม่พบในฮ่องกงที่มีประชากรอยู่ราว 7.5 ล้านคน

วันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงยังรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 52 ราย ในจำนวนนี้ 41 ราย เป็นการติดเชื้อในชุมชน ส่งผลให้ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,522 ราย ขณะสื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 8 ราย

รอยเตอร์

สำหรับมาตรการคุมเข้มใหม่นี้ทางการฮ่องกงได้สั่งห้ามประชาชนรวมตัวกันในที่สาธารณะเกิน 4 คน ลดลงจากที่ก่อนหน้านี้กำหนดให้รวมตัวกันได้ไม่เกิน 50 คนในช่วงที่ฮ่องกงเผชิญการระบาดระลอกสองในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ถูกสั่งปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้คำสั่งนี้มีทั้งหมด 12 ประเภท ซึ่งรวมถึงยิมออกกำลังกาย ร้านทำผม ไนท์คลับ และ คาราโอเกะ นอกจากนี้ทางการฮ่องกงยังมีคำสั่งเป็นครั้งแรกให้ประชาชนสวมหน้ากากป้องกันในระหว่างใช้บริการขนส่งสาธารณะด้วย แม้ว่าชาวฮ่องกงส่วนใหญ่จะสวมหน้ากากป้องกันเพื่อป้องกันการติดต่อแพร่เชื้ออยู่ก่อนแล้ว

อย่างไรก็ดีนางหล่ำกล่าวว่ามาตรการใหม่เหล่านี้จะมีการพิจารณาทบทวนอีกครั้งภายใน 7 วัน

Advertisement

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ผู้จัดงานเทศกาลหนังสือฮ่องกง ที่ปกติจะมีผู้รักการอ่านมาเที่ยวชมงานนี้ตกปีละประมาณ 1 ล้านคน ได้ประกาศยกเลิกงานเทศกาลหนังสือฮ่องกงที่จะจัดขึ้นในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ไปด้วยเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image