การระบาดใหญ่จะแย่ลง! ‘อนามัยโลก’ ชี้หลายชาติรับมือโควิดผิดทาง

การระบาดใหญ่จะแย่ลง! ‘อนามัยโลก’ ชี้หลายชาติรับมือโควิดผิดทาง

องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนว่าการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ หากรัฐบาลของประเทศต่างๆ ยังคงล้มเหลวที่จะดำเนินมาตรการที่เด็ดขาดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ขณะนี้มีหลายประเทศที่กำลังเดินไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เป็นเครื่องที่พิสูจน์ให้เห็นว่า มาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาไม่ได้รับการนำไปปฏิบัติหรือทำตาม

นายกีบรีเยซุสกล่าวว่า การส่งสัญญาณที่สับสนจากผู้นำประเทศเป็นตัวการบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชนในความพยายามที่จะควบคุมการแพร่ระบาดใหญ่ ขณะนี้ไวรัสโคโรนายังคงเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง แต่การกระทำของรัฐบาลจำนวนมากและประชาชนในประเทศไม่ได้สะท้อนข้อเท็จจริงดังกล่าว

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวด้วยว่า มาตรการต่างๆ อาทิ การรักษาระยะห่างทางสังคม การล้างมือเป็นประจำ รวมถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัยในสถานการณ์ที่เหมาะสม จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง พร้อมทั้งเตือนว่าไม่มีหนทางที่เราจะกลับสู่การใช้ชีวิตแบบเดิมได้ในอนาคตอันใกล้นี้

Advertisement

“หากเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ไม่ได้รับการปฏิบัติตาม หนทางเดียวที่การแพร่ระบาดใหญ่นี้จะเดินไป คือมันจะเลวร้าย เลวร้าย และเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ”นายกีบรีเยซุสกล่าว

นายกีบรีเยซุสยังแสดงความวิตกกังวล หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 12 ล้านเป็น 13 ล้านคนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 ล้านคนในเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น ขณะที่ในเวลาเพียง 6 เดือนครึ่งที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ โรคโควิด-19 ยังได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าครึ่งล้านอีกด้วย

ปัจจุบันทวีปอเมริกาถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุขกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนในลาตินอเมริกาก็มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไปแล้วมากกว่า 145,000 ราย

Advertisement

นายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการด้านสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในทวีปอเมริกา รวมถึงการเปิดพื้นที่บางส่วนนำไปสู่การแพร่ระบาดที่รุนแรงเพิ่มขึ้น แต่การปิดพื้นที่เป็นวงกว้างก็จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีการล็อกดาวน์ชุมชนแบบเฉพาะเจาะจงอาจจำเป็น เพื่อช่วยจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส

ไรอันเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ กำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและเข้มแข็ง ขณะที่ประชาชนจำเป็นจะต้องเข้าใจและดำเนินการตามแนวปฏิบัติเหล่านั้น เพราะเราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอาศัยอยู่กับไวรัส ทั้งยังเตือนด้วยว่าความคาดหวังว่าไวรัสจะถูกขจัดไป หรือเราจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับความจริงโดยสิ้นเชิง

ไรอันย้ำด้วยว่า ขณะนี้เรายังไม่ทราบชัดเจนว่าผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากไวรัสโคโรนาจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ในตัวหรือไม่ และหากมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น ภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะอยู่กับแต่ละคนไปยาวนานเท่าใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image