สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รายงานประจำปีของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยความมั่นคงและโภชนาการทางอาหาร ของโลก ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ระบุว่า เกือบ 1 ใน 9 ของประชากรโลก กำลังจะตกอยู่ในภาวะหิวโหย ขณะที่การระบาดของโควิด-19 ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกในปีนี้
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลอันเกี่ยวเนื่องกับการสภาพอากาศ ยิ่งผลักดันให้มีผู้ที่เข้าสู่ภาวะหิวโหยมากขึ้น ขณะที่อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการยังคงมีราคาแพงสำหรับหลายคน ไม่เพียงทำให้เกิดภาวะการขาดสารอาหาร แต่ยังทำให้สัดส่วนของผู้ใหญ่และเด็กที่มีภาวะอ้วนเพิ่มมากขึ้นด้วย
ผลการศึกษาพบว่า หลังจากหลายสิบปีที่ตัวเลขของผู้ที่ประสบกับภาวะหิวโหยลดลง แต่นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ตัวเลขของผู้หิวโหยก็ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้คนไม่ใช่เพียงแค่ต้องการอาหารที่เพียงพอ แต่ยังต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วย
ตัวเลขของยูเอ็น ระบุว่า มีประชากรโลกเกือบ 690 ล้านคน หรือ 8.9 เปอร์เซ็นต์ของตัวโลก ที่อยู่ในภาวะหิวโหย และว่า ตัวเลขได้เพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านคน ภายในเวลาปีเดียว จนถึง 2019 และเพิ่มขึ้น 60 ล้านคนในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่เป้าหมายของยูเอ็นตั้งไว้เมื่อ 5 ปีก่อน กำหนดว่าจะกำจัดความยากจนให้หมดสิ้นไปภายในปี 2030 แต่หากแนวโน้มยังเป็นอยู่เช่นนี้ เป้าหมายดังกล่าวก็คงเป็นไปไม่ได้ และหากเป็นเช่นนี้ ภายในปี 2030 จะมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความหิวโหยถึงกว่า 890 ล้านคน หรือ 9.8 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก
