เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เว็บไซต์เดอะซันรายงานว่า ผลการศึกษาชิ้นล่าสุดของศูนย์ควบคุมโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า “ซุปเปอร์สเปรดเดอร์” ที่ป่วยโควิด-19 1 คน แต่ไม่แสดงอาการใดๆ สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ถึง 71 คน ภายในเวลาเพียง 60 วินาทีที่อยู่ในลิฟต์ ทำให้ต้องกลับมาวิเคราะห์ถึงผลกระทบของผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการที่จะส่งผลต่อผู้คนรอบข้าง
รายงานเปิดเผยว่า หญิงรายนี้ เดินทางจากสหรัฐอเมริกา กลับบ้านเกิดที่มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม แม้ว่าจะไม่แสดงอาการใดๆ แต่หญิงรายนี้ได้ทำการกักตัวเองที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนอื่นๆที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจโควิด-19 ออกมาในภายในหลังพบว่า เธอป่วยโควิด-19 ชนิดไม่แสดงอาการ หลังจากนั้นอีก 3 สัปดาห์ หนึ่งในเพื่อนบ้านของเธอ และผู้ที่ใกล้ชิดกับเพื่อนบ้านของเธออีก 4 คน ตรวจพบผลโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ ไม่ได้มีประวัติการสัมผัสกันมาก่อน แต่ใช้ลิฟต์เดียวกัน แต่ต่างเวลา
ตามผลการศึกษาของซีดีซี ระบุว่า คาดว่าเพื่อนบ้านของผู้ติดเชื้ออาจจะติดเชื้อมาจากการใช้ลิฟต์ ที่ผู้ป่วยใช้มาก่อน และอาจจะเกิดการแพร่เชื้อได้ เมื่อเพื่อนบ้านสัมผัสกับผิวสัมผัสและปุ่มกดต่างๆในลิฟต์
ขณะที่ผู้อยู่อาศัยคนอื่นๆในอาคาร ไม่มีใครตรวจพบเชื้อ แต่จากการตรวจสอบตามรอยในภายหลังของเพื่อนบ้านของผู้ป่วย พบว่า พบผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยรายนี้ทั้งสิ้น 71 ราย
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ลิฟต์ถือเป็นพื้นที่ที่แพร่เชื้อไวรัสได้ดีอย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่เล็ก และปิด ขณะที่ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ เคยแสดงให้เห็นว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถอยู่บนพื้นผิวบางชนิดได้นานถึง 4 วัน โดยเฉพาะพื้นผิวที่เป็นสแตนเลส หรือพลาสติก