เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เดอะ นิวยอร์กไทม์ส สื่อหัวแถวของสหรัฐอเมริกา จะโยกย้ายทีมงานส่วนหนึ่งที่ประจำอยู่ที่สำนักงานในฮ่องกง ไปยังกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นจากความห่วงวิตกถึงผลของการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงของจีน ที่จะเข้ามาควบคุมการทำงานของสื่อมวลชนและส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในด้านต่างๆ ในฮ่องกง
นิวยอร์กไทม์สเปิดเผยว่า ทีมงานได้เผชิญความท้าทายหลายอย่างในการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตทำงาน และทีมงานจะโยกย้ายทีมผู้สื่อข่าวสายงานดิจิทัล ซึ่งมีราว 1 ใน 3 ของทีมงานนิวยอร์กไทม์สในฮ่องกงทั้งหมด ไปยังกรุงโซลภายในปีหน้า อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงของนิวยอร์กไทม์สกล่าวว่า ทีมงานส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในฮ่องกงและยังคงมุ่งมั่นนำเสนอรายงานข่าวเกี่ยวกับฮ่องกงและจีนต่อไป
การย้ายทีมงานส่วนหนึ่งของสื่อดังสหรัฐครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อสถานะของฮ่องกงในฐานะเป็นศูนย์กลางวงการสื่อสารมวลชนแห่งภูมิภาคเอเชีย และมีขึ้นในขณะที่จีนและสหรัฐยังมีปัญหากระทบกระทั่งกันในประเด็นการทำงานของผู้สื่อข่าวของอีกฝ่ายในประเทศตนเอง
โดยเมื่อช่วงต้นปีนี้รัฐบาลปักกิ่งประกาศกร้าวว่าผู้สื่อข่าวที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในจีนแผ่นดินใหญ่ ก็อาจไม่สามารถทำงานข่าวในฮ่องกงได้เช่นกัน ขณะที่สหรัฐได้เริ่มปฏิบัติกับสื่อทางการจีนรายใหญ่ 5 สำนักในแบบเดียวกับสถานทูตต่างชาติ ด้วยการจำกัดจำนวนผู้สื่อข่าวจีนที่เข้ามาทำงานในสหรัฐได้ลงเหลือ 100 คน จากเดิมให้ 160 คน ทำให้จีนตอบโต้กลับด้วยการเพิกถอนใบรับรองผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันจากนิวยอร์กไทม์ส เดอะ วอลสตรีทเจอร์นัล และเดอะ วอชิงตันโพสต์ ที่ใบรับรองจะหมดอายุลงในสิ้นปี 2020 นี้ นอกจากนี้ จีนยังได้ขับผู้สื่อข่าวของเดอะ วอลสตรีทเจอร์นัล ที่เป็นชาวอเมริกัน 2 คน และออสเตรเลีย 1 คน ออกนอกประเทศด้วย หลังตีพิมพ์บทความตราหน้าจีนว่าเป็น “คนป่วยตัวจริงของเอเชีย”