บ.มะกัน เริ่มทดลองวัคซีน โควิด-19 ในคน ขั้นสุดท้าย 27 ก.ค.

(AP Photo/Ted S. Warren, File)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ บริษัทโมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐอเมริกา ประกาศเตรียมทดลองวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ของตนในคนระยะที่สามซึ่งเป็นระยะสุดท้ายในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ หลังผลการทดลองระยะแรกตีพิมพ์เผยแพร่ใน นิวอิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซิน วารสารวิชาการด้านการแพทย์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมเช่นเดียวกัน โดยการทดลองระยะที่สามดังกล่าวเตรียมทดลองในสหรัฐอเมริกา และต้องใช้กลุ่มตัวอย่างไม่น้อยกว่า 30,000 คน กำหนดแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่มเท่าๆกัน โดยกลุ่มทดลองจะฉีดวัคซีนตามสูตรของโมเดอร์นาขนาด 100 ไมโครกรัมให้ ส่วนกลุ่มควบคุมจะได้รับยาเปล่าที่ไม่มีวัคซีนหรือพลาซิโบสำหรับใช้ในการเปรียบเทียบ

ทั้งนี้เป้าหมายของการทดลองเพื่อดูว่ากลุ่มทดลองมีภูมิคุ้มกันซึ่งจะทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 หรือไม่ หรือหากกลุ่มทดลองติดเชื้อ วัคซีนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยหนักได้หรือไม่ หากสามารถป้องกันการติดเชื้อหรือสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยหนักรุนแรงขึ้นก็ถือวัคซีนประสบความสำเร็จ ทั้งนี้การทดลองในคนระยะที่สามนี้กำหนดจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 27 เดือนตุลาคม รวมเวลาราว 3 เดือน

การประกาศการทดลองระยะสุดท้ายดังกล่าวมีขึ้นหลังมีการเผยแพร่การทดลองในคนระยะแรกซึ่งแล้วเสร็จไปก่อนหน้านี้ ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ โดยระบุว่า วัคซีนของโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพสามารถป้องกันผู้เข้าร่วมการทดลอง 45 รายไม่ให้ติดเชื้อได้สำเร็จ โดยกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดสามารถพัฒนาภูมิคุ้มกันของร่างกายขึ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อทั้งหมด

วัคซีนโมเดอร์นา กลายเป็นวัคซีนที่มีการพัฒนารุดหน้าที่สุด ท่ามกลางการแข่งขันกันพัฒนาวัคซีนในหลายประเทศทั่วโลก คู่กับวัคซีน ซิโนวัค ซึ่งเข้าสู่การทดลองในคนระยะที่สองไปแล้ว นอกเหนือจากนั้น สำนักข่าวทาสส์ ของรัสเซีย เปิดเผยว่า ทีมวิจัยชาวรัสเซียได้พัฒนาวัคซีนที่ผ่านการทดลองในคนแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลและรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับวัคซีนออกมา

Advertisement

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่า วัคซีนสูตรแรกๆ ที่วางตลาดอาจไม่ใช่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่สุดและปลอดภัยที่สุด

ทั้งนี้ วัคซีนโมเดอร์นา เป็น อาร์เอ็นเอวัคซีน ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาวัคซีนใหม่สุด โดยอาศัยข้อมูลพันธุกรรมของไวรัสในอาร์เอ็นเอ มาใส่ไว้ในวัคซีนเพื่อสร้างโปรตีนแบบเดียวกับโปรตีนมีตุ่มหรือหนามบนเปลือกไวรัส เพื่อใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด วิธีพัฒนาใหม่ล่าสุดนี้ช่วยลดเวลาในการพัฒนาวัคซีนลงได้หลายเดือน แต่ยังไม่เคยมีวัคซีนโรคใดๆ ที่พัฒนาด้วยวิธีนี้ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นการทั่วไปมาก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image