เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สเปนสั่งฆ่าทิ้งตัวมิงค์เกือบแสนตัวในฟาร์มเลี้ยงแห่งหนึ่งในแคว้นอารากอน ทางตอนเหนือของประเทศสเปน หลังจากพบตัวมิงค์ในฟาร์มแห่งนี้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
การสั่งฆ่าตัวมิงค์จำนวนมากครั้งนี้ของทางการสเปน มีขึ้นหลังจากภรรยาของคนงานรายหนึ่งในฟาร์มเลี้ยงมิงค์แห่งดังกล่าวในแคว้นอารากอน มีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากนั้นจึงตรวจพบว่าคนงานที่เป็นสามีของหญิงรายนี้และลูกจ้างในฟาร์มอีก 6 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นกัน จากนั้นได้มีการกักแยกตัวมิงค์ในฟาร์มเลี้ยงดังกล่าวและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด กระทั่งผลตรวจออกมาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมาชี้ว่า 87 เปอร์เซ็นต์ของตัวมิงค์ในฟาร์มเลี้ยงนี้ติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสเปนออกคำสั่งให้ฆ่ามิงค์จำนวนทั้งหมด 92,700 ตัวทิ้ง โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัทเจ้าของฟาร์มเลี้ยงนี้
นายฮัวคิน โอโลนา รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรสเปนกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันก่อนว่า การตัดสินใจให้ฆ่าตัวมิงค์ในฟาร์มเลี้ยงแห่งนั้นก็เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อไวรัสสู่คน ขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนถึงความเป็นไปได้ของไวรัสที่จะติดต่อจากสัตว์สู่คน ซึ่งนักวิจัยกำลังศึกษาถึงความเสี่ยงภัยนี้อยู่
ทั้งนี้นอกจากกรุงมาดริดและแคว้นกาตาลุญญาแล้ว แคว้นอารากอน เป็นหนึ่งในจุดฮอทสปอทของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศสเปน ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 250,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 28,000 ราย
ก่อนหน้านี้มีรายงานพบตัวมิงค์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ฟาร์มเลี้ยงหลายแห่งในเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตขนมิงค์รายใหญ่ โดยเนเธอร์แลนด์ได้ฆ่าตัวมิงค์ไปแล้วหลายหมื่นตัวหลังพบระบาดในหลายฟาร์มทั่วประเทศ หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ออกมาเปิดเผยในเดือนพฤษภาคมว่าพบคนงาน 2 คนในฟาร์มเลี้ยงแห่งหนึ่งต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 จากสัตว์
ด้านองค์การอนามัยโลกชี้ว่านี่อาจเป็นการพบการติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นการติดต่อจากสัตว์สู่คนที่รับรู้เป็นครั้งแรกนับจากไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในประเทศจีน
