3 วันติด! มะกันติดเชื้อ ‘โควิด’ วันเดียวอีกกว่า 7.7 หมื่นคน ‘ทรัมป์’ ลั่นไม่สั่งอเมริกันชนสวมหน้ากาก

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา ที่ยอมสวมหน้ากากป้องกัน ขณะเดินทางไปตรวจเยีย่มศูนย์การแพทย์ ทหารวอลเตอร์รีด ในรัฐแมรีแลนด์ของสหรัฐ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา (เอเอฟพี)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม สหรัฐมีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอีกมากถึง 77,638 ราย นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่สหรัฐมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นในวันเดียวมากกว่า 7.7 หมื่นราย ส่งผลให้สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งขึ้นเป็นกว่า 3,770,012 ราย มากที่สุดในโลก และสหรัฐยังมีผู้เสียชีวิตในวันดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 972 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 142,064 ราย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสถานการณ์ในสหรัฐยังไม่พ้นจากการระบาดระลอกแรกและจะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเฉพาะรัฐทางตอนใต้และตะวันตกของสหรัฐที่มีการเร่งรีบให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่เร็วเกินไป

ขณะที่ประเด็นการสวมหน้ากากป้องกันตนเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันมากในสหรัฐ โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ต่อต้านไม่ยอมสวมหน้ากากป้องกัน แต่เพิ่งจะสวมหน้ากากปรากฏตัวต่อสาธารณชนให้เห็นเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ โดยยืนกรานว่าเขาจะไม่ออกคำสั่งให้อเมริกันชนสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่เห็นควรให้ประชาชนมีอิสระในการตัดสินใจเอง

เป็นท่าทีที่มีขึ้นหลังจากดอกเตอร์แอนโธนี ฟอซี ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านโรคระบาดและเป็นที่ปรึกษารัฐบาลทรัมป์ในการรับมือตอบสนองการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กล่าวเรียกร้องให้ผู้นำระดับรัฐและผู้นำท้องถิ่นดำเนินการอย่างแข็งขันในการทำให้ประชาชนชาวอเมริกันสวมใส่หน้ากากปกปิดใบหน้า เพื่อสกัดป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ผู้ว่าการรัฐในหลายรัฐของสหรัฐได้มีคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้านแล้ว ซึ่งรวมถึงผู้ว่าการรัฐอลาบามาจากพรรครีพับลิกันด้วย ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาคัดค้านการสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากาก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image