เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์บนเกาะฮ่องกงพากันปิดทำการของธนาคารสาขาลงหรือไม่ก็ลดชั่วโมงการทำงานลง หลังจากนางแค์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ออกมายอมรับว่าสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุดนั้นไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ซึ่งในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกกว่า 100 คน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมของฮ่องกงใกล้แตะ 2,000 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 12 รายนับจากพบการระบาดในฮ่องกงช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยธนาคารแบงก์ ออฟ ไชนา(ฮ่องกง) แถลงว่า ธนาคารได้ปิดให้บริการในอีก 9 สาขา หลังจากที่ปิดให้บริการไปแล้ว 3 สาขาก่อนหน้านี้เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาด
ธนาคาร 9 สาขาเนื่องจากการระบาดซ้ำของไวรัสโคโรนา ด้านธนาคารเอชเอสบีซีประกาศปิดทำการชั่วคราวศูนย์ให้บริการทางธุรกรรม 2 แห่ง และศูนย์ให้บริการเคลื่อนที่อีก 3 แห่งของทางธนาคาร ส่วนธนาคารสาขาทั้งหมดก็ได้มีการลดชั่วโมงการทำงานลง เช่นเดียวกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ และแบงค์ออฟอีสต์เอเชียที่ลดชั่วโมงการเปิดทำการลง ซึ่งมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลฮ่องกงประกาศคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยให้ข้าราชการพลเรือนในส่วนงานที่ไม่จำเป็น ให้ทำงานจากที่บ้าน และสถานที่สาธารณะต่างๆ เช่น สวนสนุก โรงยิม และสถานกที่ที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มากอีก 10 ประเภท ให้ปิดทำการต่อไปอีก 7 วัน
ล่าสุดฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในวันจันทร์(20 ก.ค.)นี้ อีก 73 ราย ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อในชุมชน 66 ราย
