ทรัมป์รับครั้งแรก วิกฤตโควิด-19 อาจแย่ลง แนะคนสวมหน้ากากอนามัย
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีท่าทีต่อวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเปลี่ยนไป โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ออกมาสนับสนุนให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัยแล้ว รวมถึงยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดอาจแย่ลงกว่านี้ด้วย โดยท่าทีดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ทรัมป์ยอมรับถึงปัญหา หลังจากก่อนหน้านี้ทรัมป์เน้นย้ำไปที่การสนับสนุนให้เปิดเศรษฐกิจมาโดยตลอด
ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดครั้งแรกในรอบเดือน ทรัมป์เรียกร้องให้กลุ่มเยาวชนหลีกเลี่ยงการไปสถานบันเทิงที่มีคนแออัด พร้อมทั้งยอมรับว่าสถานการณ์จะแย่ลงกว่าที่เป็นอยู่นี้ นอกจากนี้ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนที่ไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้ สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งแม้จะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ตนก็เริ่มคุ้นเคยกับการสวมหน้ากากอนามัยแล้ว
ทั้งนี้ประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงแรกมักไม่ให้ความสำคัญกับอันตรายของเชื้อโควิด-19 และเคยกล่าวถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัยว่าเป็นเพียงนโยบายที่สร้างความถูกต้องทางการเมืองเท่านั้น และมักหลีกเลี่ยงการสวมใส่หน้ากากออกสื่อ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เพิ่งสวมหน้ากากอนามัยออกสื่อครั้งแรก ขณะเดินทางตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลทหารเมื่อไม่นานมานี้ั้งนี้สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 4 ล้านคน เสียชีวิตแล้ว 144,000 ราย นับเป็นยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่มากที่สุดในโลก
