โควิดทำศก.มะกันหดตัว 32.9% หนักสุดในหลายสิบปี

เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับการถดถอยครั้งใหญ่ในรอบหลายทศวรรษ โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ผ่านมา หดตัวลงถึง 32.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

สาเหตุสำคัญมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้ประเทศสหรัฐต้องบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ประชาชนก็ไม่มีเงินสำหรับจับจ่ายใช้สอย หลังจากตัวเลขการว่างงานพุ่งสูงขึ้นทำสถิติ

ตัวเลขการหดตัวดังกล่าวถือว่าหนักที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติโดยรัฐบาลสหรัฐตั้งแต่ปี 1947 และรุนแรงกว่าตัวเลขการหดตัวของเศรษฐกิจในปี 1958 ที่ราว 10% ถึงสามเท่า

นักเศรษฐศาสตร์ระบุก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาคาดการณ์ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะหดตัวลงรุนแรงที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 2 ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นหลังจากนั้น

Advertisement

อย่างไรก็ดีเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในบางพื้นที่ต้องมีการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มในการดำรงชีวิตประจำวันของผู้คนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจส่งสัญญาณว่าประสบกับภาวะชะงักงัน

ทั้งนี้มีผู้ยื่นขอใช้สิทธิสนับสนุนในฐานะผู้ว่างานเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.4 ล้านคนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ขณะที่ตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนก็ลดลงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับความมั่นใจของผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมที่ลดลงด้วยเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image