เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ทางการสิงคโปร์จะให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในสิงคโปร์ จากกลุ่มประเทศที่สิงคโปร์อนุญาตให้กักตัวอยู่ในบ้านหรือในที่พักได้ ซึ่งรวมถึงพลเมืองชาวสิงคโปร์และผู้มีถิ่นพำนักอยู่ในสิงคโปร์เองด้วย ให้สวมอุปกรณ์ติดตามตัวอิเลคทรอนิคขณะแยกกักตัวอยู่ในที่พักของตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรการกักตัวอยู่ในที่พักของตนเองตามที่กำหนด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยเป็นมาตรการคล้ายคลึงกับของฮ่องกงและเกาหลีใต้ที่ใช้สายรัดข้อมืออิเลคทรอนิคในการติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชนในขณะที่อยู่ภายใต้มาตรการกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
รอยเตอร์ระบุว่า นักเดินทางที่เข้ามาในสิงคโปร์จะต้องทำการเปิดใช้อุปกรณ์ติดตามตัวอิเลคทรอนิคนี้ ที่จะใช้สัญญาณจีพีเอสและบลูทูธเชื่อมต่อกันเมื่อถึงบ้านหรือถึงที่พักแล้ว หากมีความพยายามที่จะออกจากบ้านหรือทำลายอุปกรณ์ติดตามตัวนี้ทิ้ง ก็จะมีสัญญาณแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ทางการสิงคโปร์ ซึ่งก็จะดำเนินการในขั้นต่อไปกับผู้ที่ละเมิดมาตรการกักตัวดังกล่าว
อย่างไรก็ดียังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาว่าอุปกรณ์ติดตามตัวนี้ของทางการสิงคโปร์จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร เพียงแต่ย้ำว่าจะไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ และไม่มีการแสดงเสียงหรือบันทึกภาพวิดีโอจากอุปกรณ์ตัวนี้แต่อย่างใด และว่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์นี้
ทั้งนี้สิงคโปร์มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 53,051 ราย และผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 27 ราย