นอนคุก! มะกันรวบหนุ่มหัวใส ใช้เงินกู้ช่วยโควิด ซื้อรถสปอร์ตหรูไว้ซิ่ง

แฟ้มภาพ รถสปอร์ต ลัมโบร์กินี อูรุส (เอเอฟพี)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หนุ่มอเมริกันหัวใสถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและจะต้องไปนอนในคุกโดยปริยาย หลังจากทำเรื่องยื่นขอกู้เงินในโครงการสินเชื่อเพื่อการคุ้มครองธุรกิจ(พีพีพี) ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มีขึ้นภายใต้กฎหมาย CARE Act ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากพิษวิกฤตโรคโควิด-19 โดยได้เงินกู้ไปรวม 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 49.68 ล้านบาท) จากสัญญาเงินกู้ 2 ฉบับ แต่กลับนำเงินกู้ก้อนดังกล่าวไปเที่ยวใช้จ่ายซื้อของราคาแพงอย่างมันมือ รวมถึงรถสปอร์ตยี่ห้อหรูสัญชาติอิตาเลียน “ลัมโบร์กินี อูรุส” ราคา 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.21 ล้านบาท)

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐแถลงเปิดเผยถึงคดีนี้เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมว่า ผู้ต้องหารายนี้คือ นายลี ไพรซ์ ชาวรัฐเท็กซัส อายุ 29 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงหลังจากได้รับเงินกู้จากสัญญา 2 ฉบับภายใต้โครงการพีพีพี โดยฉบับหนึ่งนั้นเป็นเงินกู้สำหรับบริษัทไพรซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ โฮลดิ้งส์ ที่มีรายงานว่าได้เงินกู้ไปจำนวนกว่า 900,000 ดอลลาร์สหรัฐ และอีกฉบับเป็นสัญญาเงินกู้ที่ให้แก่บริษัท 713 คอนสตรั๊คชั่น ได้ไป 700,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้เพื่อที่ผู้กู้จะได้นำเงินดังกล่าวไปจ่ายเงินเดือนให้แก่ลูกจ้าง แต่จากการตรวจสอบปรากฎว่าทั้งสองบริษัทดังกล่าว ไม่มีลูกจ้างอยู่เลย หนำซ้ำบุคคลที่ถูกอ้างว่าเป็นซีอีโอของบริษัท 713 คอนสตรั๊คชั่น ที่ยื่นขอกู้เงินนั้น ได้เสียชีวิตไปแล้วในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หนึ่งเดือนก่อนที่จะมีการยื่นขอกู้เงินภายใต้โครงการพีพีพีของบริษัทนี้

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุอีกว่าเงินกู้รัฐที่นายไพรซ์ได้ไปนั้น มีการนำไปใช้ซื้อสินค้าหรูราคาแพง ทั้งรถสปอร์ตลัมโบร์กินี นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ รถปิ๊กอัพเอฟ-250 และยังไปเที่ยวใช้จ่ายในสโมสรเต้นระบำเปลื้องผ้าอีกหลายพันดอลลาร์สหรัฐ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image