สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (เอสไอไอ) จะเป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่อาจผลิตได้มากถึง 100 ล้านโดส เพื่อแจกจ่ายให้กับประเทศยากจนต่างๆ ได้ในปี 2021 ภายใต้ข้อตกลงที่มีการตกลงร่วมกันไว้ที่สถาบันเอสไอไอเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของ กาวี เดอะ วัคซีน อัลไลแอนซ์ (Gavi, The Vaccine Alliance) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านสาธารณสุขโลกเพื่อการเข้าถึงภูมิคุ้มกันของชาติยากจน ที่ระบุด้วยว่าภายใต้ข้อตกลงนี้จะมีการผลิตวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ตัวที่แตกต่างกันที่สถาบันเอสไอไอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของปริมาณ และว่า วัคซีนดังกล่าวนี้จะขายในราคาสูงสุดโดสละ 3 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับ 92 ประเทศ ที่เป็นส่วนหนึ่งภายใต้โครงการสัญญาตลาดวัคซีนโควิดล่วงหน้าของกาวี โดยข้อตกลงนี้ยังมีการมอบเงินล่วงหน้าให้แก่สถาบันเอสไอไอเพื่อใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนด้วย
ข่าวแจ้งว่า ทันทีที่วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ดังกล่าวได้รับการอนุมัติรับรองประสิทธิผล เอสไอไอก็อาจสามารถผลิตวัคซีนดังกล่าวได้อย่างเร็วที่สุดในครึ่งปีแรกของปี 2021 เพื่อแจกจ่ายไปยังประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง
เซธ เบิร์กลีย์ ประธานบริหารของกาวี กล่าวว่า หลายครั้งที่ผ่านมาเราได้เห็นประเทศที่อ่อนแอที่สุดถูกทิ้งให้รออยู่เบื้องหลังเมื่อมีการรักษา การวินิจฉัยโรคหรือมีวัคซีนใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่กับวัคซีนโควิด-19 เราต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไป โดยหากมีแต่ประเทศร่ำรวยในโลกเท่านั้นที่ได้รับการปกป้อง ธุรกิจการค้าและสังคมโดยรวมทั้งหมดก็จะต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่ต่อไปในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงลุกลามอยู่ทั่วโลก
ทั้งนี้ ข่าวระบุอีกว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ สถาบันเอสไอไอจะเป็นผู้ดำเนินการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท แอสตราเซเนกา แห่งอังกฤษ และวัคซีนที่พัฒนาโดย โนวาแวกซ์ บริษัทไบโอเทคในสหรัฐอเมริกา หลังจากได้รับใบอนุญาตรับรองแล้ว
