ครึ่งปีแรก โลกใช้ ‘ลม-แสงอาทิตย์’ ผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ถ่านหินลดลง

(Photo by Christof STACHE / AFP)

สำนักข่าวเอเอฟพีเปิดเผยรายงานของคณะทำงานด้านพลังงาน “เอ็มเบอร์” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ระบุว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 โลกมีการใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของไฟฟ้าทั้งหมดบนโลก ในขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินมีการผลิตไฟฟ้าออกมาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความสามารถที่มี

แม้ว่าความต้องการในการใช้ไฟฟ้าจะลดลงจนเกือบจะทำสถิติต่ำสุด เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่พลังงานหมุนเวียนมีการใช้งานถึง 1,129 เทราวัตต์ชั่วโมง ในเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ 992 เทราวัตต์ชั่วโมง

โดยอัตราส่วนร้อยละของการใช้พลังงานที่ได้จากลมและแสงอาทิตย์ เพิ่มมากขึ้นกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 4.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พลังงานที่ได้จากถ่านหิน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอลซิลที่สร้างมลพิษมากที่สุด ลดลงไป 8.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งปีแรก

โดยในการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า ประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งรวมทั้งจีน สหรัฐอเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น บราซิล และตุรกี ตอนนี้ ผลิตไฟฟ้าจากลมและแสงอาทิตย์ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด มีเพียงอังกฤษ กับสหภาพยุโรปที่ผลิตได้ 21 และ 33 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image