หลายประเทศที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างหนักต่างพากันเพิ่มการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อรับมือกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ท่ามกลางตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นทะลุ 21 ล้านไปแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐระบุว่า จะขยายเวลาการสั่งระงับการเดินทางที่ไม่จำเป็นผ่านแดนกับแคนาดาและเม็กซิโก ออกไปจนถึงเดือนกันยายนเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศสต่างก็กำหนดให้ผู้ที่เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวในอีกประเทศหนึ่งต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้ หลังจากที่ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับตัวเลขผู้ติดเชื้อระลอก 2 ซึ่งมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,500 รายต่อวัน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา
ด้านสเปนได้สั่งให้ปิดไนท์คลับทั้งหมด และสั่งห้ามการสูบบุหรี่บนท้องถนน หากไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมในระยะที่ปลอดภัยได้ หลังมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 3,000 คนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ส่วนในเยอรมนี สถาบันควบคุมโรคติดต่อระบุว่า ผู้ที่เดินทางมาจากสเปนทั้งหมด เว้นแต่เกาะคานารี จะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ หรือไม่ก็ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ขณะที่ออสเตรียได้ขอให้ประชาชนเร่งเดินทางกลับจากโครเอเชีย ก่อนที่จะมีการบังคับใช้ระเบียบแบบเดียวกันในวันที่ 17 สิงหาคมนี้
ล่าสุดตัวเลขของผู้ติดโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 21,376,872 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 763,802 ราย