อิหร่านเย้ยมะกัน หลังถูกยูเอ็นปัดตกข้อเสนอต่อเวลาคว่ำบาตรค้าอาวุธ

แฟ้มภาพรอยเตอร์

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ปฏิเสธข้อมติของสหรัฐอเมริกาที่เสนอให้ขยายเวลาการคว่ำบาตรการค้าอาวุธต่ออิหร่านที่ใกล้จะหมดอายุลงออกไป โดยมีเพียง 2 ชาติเท่านั้นคือ สหรัฐและสาธารณรัฐโดมินิกัน จากชาติสมาชิกยูเอ็นเอสซีทั้งสิ้น 15 ชาติ ที่โหวตสนับสนุนข้อมติดังกล่าวของสหรัฐ ส่วนชาติพันธมิตรยุโรปพากันงดออกเสียง ในการลงมติที่มีขึ้นในวันศุกร์ (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา

หลังผลการลงมติข้างต้น นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวอย่างผิดหวังว่า ความล้มเหลวของยูเอ็นเอสซีที่จะปกป้องสันติสุขและความมั่นคงระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้ ส่วนนายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของทำเนียบ กล่าวถึงการที่ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ปฏิเสธที่จะสนับสนุนข้อมตินี้ของสหรัฐว่า เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้แปลกใจอะไร

ขณะที่นายอับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ออกมาทวีตเยาะเย้ยสหรัฐว่า ในประวัติศาสตร์ 75 ปีขององค์การสหประชาติ อเมริกาไม่เคยโดดเดี่ยวขนาดนี้

ข่าวแจ้งว่า ผลการลงมติที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดระหว่างสหรัฐและชาติพันธมิตรยุโรป หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปีค.ศ.2018 และมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าสหรัฐอาจจะพยายามบีบให้ยูเอ็นดำเนินมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่านั่นจะทำให้ยูเอ็นเอสซีอยู่ในความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในวิกฤตทางการทูตครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาได้

Advertisement

ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรการค้าอาวุธต่ออิหร่านของยูเอ็นกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ชาติตะวันตกได้ลงนามทำไว้กับอิหร่านในเดือนกรกฎาคมปี 2015 หรือที่เรียกว่า แผนปฏิบัติการร่วม (เจซีพีโอเอ) ที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้นเป็นผู้ร่วมเจรจากับอิหร่าน ซึ่งอิหร่านให้คำมั่นว่าจะยุติกิจกรรมด้านนิวเคลียร์เพื่อแลกกับการผ่อนคลายการคว่ำบาตรต่อและเพื่อผลประโยชน์ด้านอื่นๆ ของอิหร่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image