เกาหลีใต้ออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงยามค่ำคืน พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ พร้อมกับสั่งห้ามการชุมนุมของคนจำนวนมากทั้งในและรอบกรุงโซล หลังเกิดการแพร่ระบาดใหม่ที่หวั่นวิตกว่าจะเป็นการระบาดครั้งใหญ่ระลอก 2 ในเกาหลีใต้
นายชอง เซ คยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ระบุว่า มีธุรกิจ 12 ประเภทที่จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงมาก ซึ่งรวมถึงไนท์คลับ บาร์คาราโอเกะ และร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องหยุดให้บริการตั้งแต่วันพุธที่ 19 สิงหาคมเป็นต้นไปในกรุงโซล อินชอน และจ.คยองกี ซึ่งว่า 3 พื้นที่ดังกล่าวมีประชากรมากถึงครึ่งหนึ่งของเกาหลีใต้
นายชองกล่าวด้วยว่า สถานที่ที่เปิดให้บริการต่อสาธารณะอย่างพิพิธภัณฑ์ก็จะต้องปิดทำการ ขณะที่การรวมตัวของผู้คนในร่มมากกว่า 50 คน และการรวมตัวของผู้คนในที่กลางแจ้งมากกว่า 100 คนก็ถูกสั่งห้าม เพราะหากมาตรการล่าสุดนี้ยังคงไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ ก็จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาหลีใต้
แม้ว่าเกาหลีใต้จะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในประเทศตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยวิธีติดตาม ตรวจสอบ และรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ แต่ล่าสุดกลับพบกลุ่มก้อนการแพร่ระบาดใหม่หลายกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับโบสถ์โปรแตสแตนท์ ซึ่งถูกสั่งห้ามการชุมนุมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทางการเกาหลีใต้เผยว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันอังคารเพิ่มขึ้น 246 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 15,761 คน นับเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันที่มีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 3 หลัก หลังจากก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้เพียง 30-40 คนเท่านั้น
