ผลการศึกษาชี้ว่าแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ได้สูญเสียมวลเป็นจำนวนมหาศาลเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องเร่งประเมินสถานการณ์ใหม่ถึงผลกระทบอันเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากปรากฏการณ์ดังกล่าว ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
ก่อนหน้านี้ในปี 2561 ปริมาณการสูญเสียแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์เป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากฤดูร้อนที่หนาวเย็นขึ้นและจำนวนหิมะที่ตกมากขึ้นในพื้นที่ทางด้านฝั่งตะวันตกของกรีนแลนด์ แต่ในปี 2562 กระแสลมร้อนที่พัดผ่านมาส่งผลให้กรีนแลนด์สูญเสียมวลน้ำแข็งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ผลการวิจัยพบว่าในปี 2562 กรีนแลนด์สูญเสียมวลน้ำแข็งไปถึง 532 กิกะตัน หรือเทียบเท่ากับการสูญเสียน้ำแข็ง 66 ตันต่อมนุษย์หนึ่งคนบนโลก ซึ่งมากกว่าการสูญเสียมวลน้ำแข็งที่มากที่สุดที่เคยบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ในปี 2555 ถึง 15%
การหลอมละลายของมวลน้ำแข็งในกรีนแลนด์เป็นประเด็นที่มีความวิตกกังวลอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากแผ่นน้ำแข็งเก่าแก่เหล่านี้จะทำให้ระดับน้ำบนโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 6 เมตรหากมันหลอมละลายลงทั้งหมด
ผลวิจัยล่าสุดชี้ว่าน้ำแข็งในกรีนแลนด์หลอมละลายเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้อันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ขณะที่ผลวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ถูกเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อนบ่งชี้ว่า ขณะนี้กรีนแลนด์ไม่มีหิมะมากพอที่จะทดแทนการสูญเสียของน้ำแข็งที่หลอมละลายไป ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้ระดับน้ำบนผิวโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่พ้น
