กระทรวงกลาโหมสหรัฐออกรายงานที่ระบุว่า กองทัพจีนกำลังผลักดันให้มีการเพิ่มหัวรบติดอาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่ในปัจจุบันราว 200 หัวรบขึ้นเป็นสองเท่าภายในหนึ่งทศวรรษข้างหน้า เพื่อให้มีศักยภาพในการใช้หัวรบดังกล่าวไปติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยไกลที่จะใช้ได้ทั้งจากบนบก ในทะเล และในอากาศ
นอกจากเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้เทียบเคียงกับสหรัฐแล้ว กองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีนยังมุ่งให้ความสำคัญกับการปฎิบัติการร่วมเพื่อขัดขวาง ยับยั้ง และเอาชนะความพยายามของสหรัฐในการเข้าไปแทรกแซงสถานการณ์เกี่ยวกับไต้หวันอีกด้วย
รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า ขณะนี้กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนมีความสามารถเทียบเคียงหรือสูงกว่ากองทัพสหรัฐในบางสาขา อาทิ การสร้างเรือ การสร้างขีปนาวุธจากภาคพื้นดินและขีปนาวุธติดจรวดนำวิถี รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศ
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่กองทัพสหรัฐได้เปิดเผยถึงการประเมินความสามารถทางด้านนิวเคลียร์ของจีน โดยมีการระบุว่าจำนวนหัวรบที่ติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ของจีนน่าจะมีขั้นต่ำคือ 200 แต่ไม่ถึง 300 หัวรบ
รายงานระบุด้วยว่ามีความเป็นไปได้ที่จีนจะหาทางพัฒนากองทัพของตนภายในกลางศตวรรษนี้เพื่อให้เทียบเคียงหรือเหนือกว่ากองทัพสหรัฐรวมถึงชาติมหาอำนาจอื่นๆ ที่จีนมองว่าเป็นภัยคุกคาม และหากจีนสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวโดยที่สหรัฐไม่ได้จัดการกับมัน ก็จะมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ รวมถึงความมั่นคงของประชาคมระหว่างประเทศที่ยึดหลักการเคารพกฎหมาย
