บัวแก้วย้ำรบ.เดินหน้าแก้ไขประมงไอยูยูเด็ดขาดจริงจัง

นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม(ไอยูยู)ว่า สืบเนื่องจากในช่วงวันที่ 21 – 24 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้สนธิกำลังเข้าจับกุมเรือ ก.นาวามงคลชัย 1 และ ก.นาวามงคลชัย 8 ซึ่งพบเหยื่อการค้ามนุษย์บนเรือจำนวน 11 คน และ 4 คน ตามลำดับ ล่าสุดในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ได้มีการออกหมายจับเจ้าของเรือทั้ง 2 ลำแล้ว และอยู่ระหว่างสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดี สำหรับเหยื่อการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นลูกเรือสัญชาติกัมพูชา 15 รายนั้น กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.ระนอง ได้เข้าให้การดูแลแล้ว

นายเสขกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 มกราคม ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ในข้อหาเป็นเจ้าของเรือประมง 6 ลำ ที่ชักธงไทยออกไปทำประมงในน่านน้ำของรัฐต่างประเทศและในทะเลหลวง หรือนำเรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็นออกไปน่านน้ำต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย(ศปมผ.) ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 29 มกราคม กระทรวงเกษตรได้ออกประกาศกระทรวงให้เรือประมงทั้ง 6 ลำดังกล่าวเป็นเรือประมงที่ถูกใช้ทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือเรือไอยูยู ตาม พ.ร.ก.การประมง และห้ามใช้เรือกลุ่มนี้ทำการประมงเป็นเวลา 2 ปี

นายเสขกล่าวด้วยว่า ล่าสุดในวันที่ 30 มกราคม เรือหลวงแกลงได้ตรวจและจับกุมเรือประมงนอกน่านน้ำ จำนวน 2 ใน 6 ลำดังกล่าว พบการกระทำผิดตาม พ.ร.ก. การประมง และ พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย จึงได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ควบคุมเรือและผู้ควบคุมเครื่องของเรือรวม 4 ราย และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมทั้ง กรมประมงได้แจ้งคณะกรรมการปลาทูน่าแห่งมหาสมุทรอินเดีย ตำรวจสากลและประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังเรือกลุ่มนี้แล้ว

“การจับกุมเรือประมงผิดกฎหมายหลายกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการยืนยันถึงการดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาดของรัฐบาลไทยในการบังคับใช้กฎหมายกับเรือประมงที่ทำประมงนอกน่านน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคประมงตามนโยบายไม่ทนต่อการกระทำความผิด หรือ Zero Tolerance”นายเสขกล่าว