สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐวิกตอเรีย ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในออสเตรเลียตอนนี้ ได้ประกาศยืดเวลาในการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นเมืองเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรียออกไป จนถึงวันที่ 28 กันยายน ขณะที่อัตราการติดเชื้อเริ่มลดลงช้ากว่าที่ตั้งเป้าเอา
โดยนายแดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีแห่งรัฐวิกตอเรีย กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 กันยายนว่า ตอนนี้ยังไม่สามารพเปิดเมืองได้ เพราะหากเปิดเมืองไปจะสูญเสียการควบคุมอย่างรวดเร็วมาก
ทั้งนี้ การล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นมีขึ้นตั้งวันที่ 2 สิงหาคม หลังจากเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ขึ้นที่เมืองเมลเบิร์น และทำให้เมืองเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศออสเตรเลีย กลายเป็นศูนย์กลางของการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 โดยตอนนี้มีผู้ป่วยถึง 75 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมด 26,282 รายในออสเตรเลีย อยู่ในเมืองเมลเบิร์น และ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมดในออสเตรเลีย อยู่ในเมืองเมลเบิร์น
โดยเมื่อวันที่ 6 กันยายน รัฐวิกตอเรียมีรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 63 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ขณะที่วันที่ 5 สิงหาคม เป็นวันที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือ 725 ราย
