โหยอดีต! เผยยอดขาย “แผ่นเสียง” แซงหน้า “ซีดี” ในตลาดเพลงสหรัฐ ครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี

แฟ้มภาพเอเอฟพี

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (อาร์ไอเอเอ) เผยแพร่รายงานในอุตสาหกรรมเพลงสหรัฐเมื่อวันที่ 10 กันยายนระบุว่า แผ่นเสียงกลายมามียอดขายแซงหน้าแผ่นซีดีเพลงในตลาดสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี หรือนับจากทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา โดยในครึ่งปีแรกของปี 2020 นี้ มีแฟนเพลงซื้อแผ่นเสียงไปมีมูลค่ารวม 232.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้ายอดซื้อแผ่นซีดีเพลงในช่วงเวลาเดียวกันที่มีมูลค่า 129.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อาร์ไอเอเอระบุว่า ยอดจำหน่ายแผ่นเสียงเพลงมีมูลค่าคิดเป็น 62 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากสื่อวัตถุทางดนตรีทั้งหมด ซึ่งลดลง 23 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ผลจากการที่สถานที่เล่นดนตรีและร้านขายแผ่นเสียงและซีดีต้องปิดทำการเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดีแผ่นเสียงมาถึงจุดเปลี่ยนจากกระแสย้อนอดีตของเหล่านักสะสมและบรรดาฮิปสเตอร์ที่โหยหาเพลงหน้าเอและบี ทว่าแผ่นเสียงก็ยังเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่ม โดยอาร์ไอเอเอชี้ว่าการสตรีมมิ่งเพลงทำรายได้ในครึ่งปีแรกของปีนี้คิดเป็นสัดส่วน 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลจากที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน โดยถือว่าเพิ่มขึ้นมา 12 เปอร์เซ็นต์ มีมูลค่าอยู่ที่ 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ผู้ใช้แพลทฟอร์มต่างๆ ยินดีจ่ายเงินค่าสมาชิกรับการบริการสตรีมมิ่งกันมากขึ้น ซึ่งรวมถึง สปอทิฟาย แอปเปิลมิวสิค และ แอมะซอน มีมูลค่า 72 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2019

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image