สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 11 กันยายน ระบุว่า ทางการเกาหลีเหนือได้ออกคำสั่ง ถ้าพบใครข้ามชายแดนจากจีนเข้าไปในเกาหลีเหนือ ก็สามารถ “ฆ่า” ได้เลย
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศจีน ได้สั่งปิดชายแดนที่ติดกับจีน ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และในเดือนกรกฎาคม เกาหลีเหนือได้ยกระดับภาวะฉุกเฉินแห่งรัฐขึ้นเป็นระดับสูงสุด ขณะที่จนถึงปัจจุบันนี้ เกาหลีเหนือยังไม่พบรายงานผู้ป่วยโควิด-19 แม้แต่รายเดียว
นายโรเบิร์ต อาบรัมส์ ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐ ในเกาหลีใต้ (ยูเอสเอฟเค) เปิดเผยว่า การปิดชายแดนทำให้ความต้องการลักลอบขนสินค้ามีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทางการเกาหลีเหนือต้องเข้าไปจัดการแก้ไข จึงได้มีการตั้งเขต “บัฟเฟอร์โซน” ขึ้น คือพื้นที่ห่างจากชายแดนที่ติดกับจีนราว 1-2 กิโลเมตร และได้ส่งกองกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (เอสโอเอฟ) หน่วยรบเพื่อการโจมตี เข้าไปประจำการ ภายใต้คำสั่งว่า ให้สามารถฆ่าทุกคนได้เลย
นายอาบรัมส์ เปิดเผยว่า การปิดชายแดนยิ่งเป็นการกระตุ้นผลกระทบอันเกิดจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่มีต่อเกาหลีเหนือ โดยการนำเข้าจากจีนลดลงไปถึง 85 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังต้องเจอกับผลกระทบจากไต้ฝุ่นไมสัก ซึ่งสื่อของทางการเกาหลีเหนือระบุว่า มีบ้านเรือนกว่า 2,000 หลังได้รับความเสียหาย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้คาดว่า จะไม่เห็นเกาหลีเหนือกระทำการอันเป็นการยั่วยุในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากตอนนี้ต้องพุ่งเป้าไปที่การฟื้นฟูประเทศและลดความเสี่ยงจากโควิด-19
