คอลัมน์ People In Focus: ยูริโกะ โคอิเกะ ความหวังใหม่กรุงโตเกียว

“ฉันจะประกาศใช้นโยบายที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน” ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้สมัครอิสระ สมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ประกาศหลังทราบผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมาด้วยคะแนนเสียง 2,912,628 คะแนน

ส่งให้โคอิเกะวัย 64 ปี มีชัยเหนือคู่แข่งอย่างฮิโรยะ มาซุดะ รัฐมนตรีมหาดไทย เพื่อนร่วมพรรคแอลดีพีไปอย่างขาดลอย

สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวหญิงคนแรก นอกจากจะประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาขาดแคลนสถานพยาบาล ปรับปรุงการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ และควบคุมงบประมาณในการเตรียมตัวเป็น

เจ้าภาพโอลิมปิกในปี 2563 แล้ว โคอิเกะยังประกาศว่าจะปรับปรุงสภาวะแวดล้อมสำหรับผู้หญิงให้ดีขึ้น และนำกรุงโตเกียวกลับมาเป็นเมืองหลวงทางการเงินแห่งเอเชียให้ได้อีกครั้ง

Advertisement

โคอิเกะเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองโกเบ มีคุณปู่ทำการค้าที่มีบริษัทตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยุคเมจิ ขณะที่พ่อโคอิเกะทำธุรกิจน้ำมันกับประเทศในแถบอาหรับ นั่นส่งผลให้โคอิเกะมีประสบการณ์กับชาวต่างชาติตั้งแต่เด็ก

และด้วยเหตุผลที่พ่อคิดว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาน้ำมันจากชาติอาหรับ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจชาติอาหรับให้มากขึ้น เธอจึงถูกส่งไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอเมริกัน ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เพื่อศึกษาด้านสังคมวิทยาและภาษาอาหรับไปพร้อมๆ กัน

หลังกลับบ้านเกิดโคอิเกะที่แต่งงานตั้งแต่อายุ 21 และหย่าขาดกับสามีในเวลาต่อมาไม่นาน ทำงานเป็นล่ามแปลภาษาอาหรับ ก่อนเข้าสู่วงการทีวีในฐานะผู้ช่วยรายการทอล์กโชว์ ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ผู้ประกาศในช่วง 2528-2535 ที่สถานีโทรทัศน์ ทีวีโตเกียว

Advertisement

โคอิเกะก้าวสู่เวทีการเมืองด้วยการคว้าเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา ก่อนที่ในปีต่อมาโคอิเกะเปลี่ยนมาได้ชัยชนะในสภาล่าง และสามารถครองเก้าอี้ไว้ได้ยาวนานถึง 8 สมัยติดต่อกัน

ในฐานะสมาชิกพรรคแอลดีพี โคอิเกะในยุคของนายกรัฐมนตรีจุนอิชิโร โคอิซูมิ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมระหว่างปี 2546-2549 เป็นผู้ริเริ่มนโยบาย “คูลบิซ” ที่สนับสนุนให้พนักงานบริษัทแต่งชุดสบายๆ ในฤดูร้อนเพื่อประหยัดการใช้พลังงาน

นอกจากนี้ โคอิเกะยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกิจการโอกินาวา และหมู่เกาะตอนเหนือ ก่อนจะมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ในปี 2550 เป็นช่วงระยะเวลาราว 1 เดือน ก่อนลาออกเพื่อรับผิดชอบกับกรณีอื้อฉาวจากเหตุเจ้าหน้าที่ทหารเผยแพร่เอกสารลับของกองทัพ

การชิงชัยตำแหน่งสูงสุดในกรุงโตเกียวของโคอิเกะ ซึ่งลงสมัครในฐานะผู้สมัครอิสระ ไม่สนต่อเสียงคัดค้านของพรรคแอลดีพีต้นสังกัด มีขึ้นเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2554 หลังผู้ว่าการกรุงโตเกียว 3 คนก่อนหน้านี้ต้องลาออกไปก่อนครบวาระทุกคน

นายชินทาโร อิชิฮาระ ลาออกในปี 2555 เพื่อไปสมัครชิงเก้าอี้ ส.ส. นายคาโอกิ อิโนเสะ ลาออกในปี 2556 หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการรับเงินจากกลุ่มทุนโรงพยาบาลที่อื้อฉาว ขณะที่โยอิชิ มาสึโซเอะ ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการใช้เงินงบประมาณ รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการซื้องานศิลปะราคาแพงด้วยเงินภาษีประชาชน

ชัยชนะของโคอิเกะเหนือผู้สมัครชิงชัย 20 คน จนนับได้ว่าเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียวที่มีผู้สมัครมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ จะส่งผลให้โคอิเกะได้เปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นอย่างที่ตั้งใจและอยู่จนครบวาระได้หรือไม่ คงต้องติดตาม

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image