โพลชี้ไบเดนยังแกร่ง! มีคะแนนนิยมนำห่างทรัมป์ถึง 9 จุด
โพลสำรวจความนิยมที่สำนักข่าวรอยเตอร์ ทำร่วมกับ อิปซอส สำนักจัดทำโพล เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมชี้ว่า โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนิยมนำห่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน อยู่ 9 จุด หลังจากศึกดีเบตแสดงวิสัยทัศน์นัดแรกของคู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพิ่งผ่านพ้นไป นั่นแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันยังคงยึดมั่นตัวเลือกประธานาธิบดีของตนเองไว้อยู่ในใจ ในชั่วเวลาที่เหลือเพียงกว่าหนึ่งเดือนเล็กน้อยก่อนที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันของรอยเตอร์ร่วมกับอิปซอส ที่ทำผ่านทางออนไลน์ทั่วประเทศ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามเป็นผู้ใหญ่ 1,314 คน ระหว่างวันที่ 29 กันยายนถึง 1 ตุลาคม พบว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 50 ให้การสนับสนุนไบเดน ขณะที่ร้อยละ 41 บอกว่าจะโหวตเลือกทรัมป์ อีกร้อยละ 4 บอกว่าจะโหวตให้กับผู้สมัครอื่น และอีกร้อยละ 5 ระบุว่ายังไม่แน่ใจ
โพลยังชี้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ 87 บอกว่าพวกเขาแน่ใจแล้วในตัวเลือกประธานาธิบดีของตนเอง มีเพียงร้อยละ 13 เท่านั้น ที่ดูเหมือนเริ่มลังเลในตัวเลือกของตนเอง นอกจากนี้ร้อยละ 51 บอกว่ามีแผนที่จะลงคะแนนเสียงโหวตก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นการโหวตทางไปรษณีย์ ก็เป็นการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าที่คูหาเลือกตั้ง และร้อยละ 6 บอกว่าพวกเขาได้ใช้สิทธิโหวตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ไบเดนยังมีคะแนนนิยมนำห่างทรัมป์อยู่ 9 จุด ใน 6 จาก 7 ของผลสำรวจระดับชาติที่มีการจัดสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันที่มีต่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐย้อนไปถึงช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ผลโพลล่าสุดที่ปรากฎยังชี้ให้เห็นว่าไบเดนยังคงเป็นตัวเลือกแรกที่ชาวอเมริกันชื่นชอบ ที่จะชนะคะแนนป๊อปปูลาร์โหวต อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะชนะการเลือกตั้ง ผู้สมัครจะต้องมีชัยชนะในรัฐต่างๆ ที่มากเพียงพอที่จะเป็นฝ่ายชนะคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง หรือ อิเลคโทรัล คอลเลจ
ขณะที่ผลสำรวจความนิยมในระดับรัฐชี้ว่า ทรัมป์เกือบจะมีคะแนนนิยมเท่ากับไบเดนในหลายรัฐที่เป็น สวิงสเตท หรือรัฐที่ทั้งสองพรรคต่างมีคะแนนนิยมสูสีกัน
ข่าวแจ้งว่า ไบเดนยังมีคะแนนนิยมนำทรัมป์ในโพลสำรวจทั่วประเทศเกือบทั้งหมดที่มีการทำสำรวจในตลอดทั้งปี และการได้เปรียบของไบเดนยังไม่เปลี่ยนแปลงด้วย แม้จะมีพัฒนาการหลายอย่างเกิดขึ้นก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตของนางรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ทรัมป์ได้แต่งตั้งผู้มาดำรงตำแหน่งแทนและเป็นการทำให้กลุ่มอนุรักษนิยมครองอำนาจในศาลสูงสุดได้แข็งแกร่งขึ้น และความนิยมของไบเดนยังคงแข็งแกร่ง หลังจากนิวยอร์กไทม์ส สื่อชั้นนำของสหรัฐ ออกมาเปิดข้อมูลว่าทรัมป์ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ใน 15 ปีที่ผ่านมากระทั่งเขาก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี
