ทรัมป์ระงับหารืองบบรรเทาผลกระทบโควิด ยื้อคุยหลังเลือกตั้ง

ทรัมป์ระงับหารืองบบรรเทาผลกระทบโควิด ยื้อคุยหลังเลือกตั้ง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศระงับการหารือกับพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับงบประมาณในการบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปจนถึงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้

ทรัมป์ทวีตว่านางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ไม่เจรจาพูดคุยอย่างบริสุทธิ์ใจ ทำให้เขาได้ร้องขอให้นายมิตช์ แมคคอนแนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาหันความสนใจก่อนการเลือกตั้งไปที่การรับรองตัวผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อนางเอมี โคนี บาร์เรตต์ ให้เป็นผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่ แทนที่รูธ กินส์เบิร์ก ที่เพิ่งเสียชีวิตไป

“ผมได้แนะนำให้ผู้แทนของผมยุติการหารือจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นลง และทันทีที่ผมได้รับชัยชนะ ผมจะผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งพุ่งเป้าไปที่ชาวอเมริกันซึ่งทำงานหนักและธุรกิจขนาดเล็ก”ทรัมป์ทวีต

คำประกาศดังกล่าวสร้างผลกระทบอย่างแรงต่อความพยายามในการชนะเลือกตั้งอีกครั้งของทรัมป์ และยังเกิดขึ้นขณะที่รัฐบาลสหรัฐรวมถึงการรณรงค์หาเสียงของเขาตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย นอกจากนี้ผลโพลล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนำทิ้งห่างทรัมป์อีกด้วย

Advertisement

นายไบเดนออกแถลงการณ์โจมตีการตัดสินใจของทรัมป์ทันทีว่า “อย่าเข้าใจผิด ถ้าคุณกำลังว่างงาน ถ้าธุรกิจของคุณกำลังจะปิดตัวลง ถ้าโรงเรียนของลูกคุณถูกปิด และกำลังเห็นการถูกเลิกจ้างเกิดขึ้นกับคนในชุมชนของคุณ การตัดสินใจของโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่มีสิ่งใดๆ เลยตามที่ผมกล่าวไปข้างต้นจะมีความสำคัญสำหรับเขา”

ด้านนางเพโลซีให้สัมภาษณ์หลังหารือกับนายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง ก่อนหน้าที่ทรัมป์จะทวีตข้อความสั่งยุติการเจรจาว่า ทรัมป์ไม่ได้ตั้งใจที่จะกำจัดไวรัส และปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือที่แท้จริงกับเด็กที่ยากจน คนว่างงาน และครอบครัวชาวอเมริกันที่ทำงานอย่างหนัก

การสั่งยุติการเจรจาของทรัมป์ยังมีขึ้นหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐออกมาเตือนว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเปราะบาง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนามานานกว่า 7 เดือนโดยไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมใดๆ ออกมา

ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์หลักของสหรัฐก็พากันร่วงลงทันทีที่มีข่าวดังกล่าวออกไป โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์แกว่งตัวอย่างหนัก จากที่ปรับเพิ่มขึ้น 200 จุดก่อนหน้านี้มาเป็นลดลงราว 300 จุดในภายหลัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image