“บัวแก้ว” ฉลองใหญ่ “อาเซียน”ย่างสู่ปีที่50 (1)

ในวันที่ 8 สิงหาคมของทุกปี กรมอาเซียนในฐานะสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติจะจัดงานฉลองครบรอบการสถาปนาอาเซียน หรือที่เรียกกันว่าวันอาเซียนเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาเซียน แต่ปีนี้กระทรวงการต่างประเทศได้จัดงานใหญ่ติดต่อกันถึง 3 วันในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ ภายใต้ชื่อ “งานเฉลิมฉลองวันอาเซียน เข้าสู่ปีที่ 50” เนื่องในโอกาสที่อาเซียนหรือที่เราเรียกกันในปัจจุบันว่า “ประชาคมอาเซียน” กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 50 ของการก่อตั้งในปี 2560 นี้

ไทยในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศผู้ริเริ่มก่อตั้งอาเซียนเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 และมีบทบาทอย่างเข้มแข็งและสร้างสรรค์มาโดยตลอด การส่งเสริมความร่วมมือกับอาเซียนถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของการขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศของไทยมาโดยตลอด ไทยยังได้รับความชื่นชมจากชาติสมาชิกอาเซียนอย่างมากเกี่ยวกับการสร้างความตื่นตัวและความเข้าใจให้กับประชาชนในการเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนในปัจจุบัน

การจัดงานในปีนี้ยังมีความพิเศษเพราะเป็นปีแรกของการจัดงานวันอาเซียนหลังการสถาปนา “ประชาคมอาเซียน” เมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา และยังถือเป็นการจัดงานเพื่อเริ่มต้นการเฉลิมฉลองครบ 50 ปีของการก่อตั้งอาเซียน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ต่อเนื่องกันไปตลอดปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันอาเซียน และเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียนชิงแชมป์ประเทศไทย ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 9 ประเทศ รวมถึงอาจารย์และนักเรียนจากโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นทั่วประเทศกว่า 450 คนร่วมงาน


(บน) เปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ (ล่าง) นายกรัฐมนตรีชมการทำกิจกรรมของเด็กๆ

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นประธานในพิธีเชิญธงอาเซียนขึ้นสู่ยอดเสา ณ บริเวณลานน้ำพุ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ความสำคัญกับเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของประชาคมอาเซียน โดยนักเรียนที่ทำหน้าที่เชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาคือนักเรียนจากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ชนะเลิศการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียนชิงแชมป์ประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานโดยแสดงความรำลึกถึง พ.อ.(พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.การต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงนามก่อตั้งสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

พล.อ.ประยุทธ์ได้เน้นถึงความสำเร็จของอาเซียนในการสร้างบรรทัดฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในภูมิภาค จากเพื่อนบ้านที่มีความแตกต่างทางระบบการเมืองการปกครองและเศรษฐกิจสู่ความร่วมมือตามวิถีแห่งอาเซียน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และมีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน โดยยึดหลักผลประโยชน์ร่วมกันและป้องกันความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัยได้ให้ความสำคัญกับอาเซียนมาโดยตลอด โดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเนื่องจากเป็นปีแรกของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รัฐบาลจึงได้เพิ่มพูนศักยภาพของไทยและอาเซียนอย่างรอบด้าน เพื่อส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสของประชาคมอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนชาวไทยร่วมกับประชาชนของอาเซียน โดยยึดหลักประชาชนคือศูนย์กลาง และพัฒนาตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ไทยและอาเซียนสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยไม่มีใครถูกมองข้ามหรือถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง


น้องๆ เชิญธงอาเซียนสู่ยอดเสา

Advertisement

 

ในส่วนของเยาวชน รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้วยการส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานที่เปิดกว้างขึ้นในอาเซียน รวมทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0 โดยนายกรัฐมนตรีเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวงใจระหว่างกัน มีความเคารพ เอื้ออาทร ช่วยเหลือเกื้อกูลบนความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมซึ่งจำเป็นต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม พร้อมกับชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศที่ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรมในอาเซียนกับสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศไทยที่เป็นหุ้นส่วนกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการทูตประชารัฐ

นายกรัฐมนตรียังได้เปิดตัวหนังสือ “อาเซียน : เปลี่ยนผ่านในกาลเวลา” ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำขึ้นเป็นที่ระลึกในโอกาสสถาปนาประชาคมอาเซียน โดยถ่ายทอดความหลากหลายและความคล้ายคลึงของอาเซียนในด้านต่างๆ ผ่านภาพถ่ายว่าเป็นหนังสือมีคุณค่าอย่างยิ่ง โดยได้รับพระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงบันทึกไว้ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนสถานที่ต่างๆ ในประเทศสมาชิกอาเซียน และยังได้ให้โอวาทแก่นักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียนชิงแชมป์ประเทศไทย ให้ทุกคนพัฒนาตนเองทั้งด้านการศึกษาและคุณธรรม รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติและประชาคมอาเซียนในภายหน้า ก่อนจะเดินทักทายกับบรรดาครูอาจารย์และนักเรียนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมวันอาเซียนด้วย

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงบันทึกในโอกาสเสด็จฯเยือนสถานที่ต่างๆ ในประเทศสมาชิกอาเซียนที่พระราชทานมาลงพิมพ์ในสมุดภาพที่ระลึกดังกล่าว ก่อนจะนำเอกอัครราชทูตจากชาติสมาชิกอาเซียนเดินชมภาพนิทรรศการอย่างเป็นกันเอง โดยภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ดังกล่าวจะนำมาจัดแสดง ณ โถงวิเทศสโมสรกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 4-11 สิงหาคม 2559 จากนั้นจะนำไปจัดแสดงที่มิวเซียมสยาม ถนนสนามไชย ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม-29 กันยายน 2559

หลังพิธีเปิดงาน นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 80 แห่ง รวม 450 คนได้ร่วมการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียนชิงแชมป์ประเทศไทย ในกิจกรรมการแข่งขันตอบปัญหา ASEAN Quiz ประจำปี 2559 ก่อนจะคัดเลือกเหลือเพียง 10 ทีม เพื่อเข้าร่วมแข่งขันตอบปัญหาในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งปรากฏว่าในปีนี้โรงเรียนที่คว้าชัยชนะไปคือโรงเรียนสุรนารีวิทยาลัย จ. นครราชสีมา ได้รับรางวัลชนะเลิศ ขณะที่โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 2 คือโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รองชนะเลิศอันดับ 3 คือโรงเรียนสตรีราชินูทิศ และรองชนะเลิศอันดับ 4 คือโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

สัปดาห์หน้าจะเล่าให้ฟังต่อถึงงานเสวนาที่น่าสนใจภายใต้หัวข้อ “หลากหลาย แต่หลอมรวม” จากวิทยากรผู้รู้ลึกและรู้จริง ชนิดที่มีผู้สนใจเข้าร่วมฟังกันล้นห้องประชุมเลยทีเดียว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image