โฆษกหน่วยงานยุติธรรมของประเทศอิหร่าน ระบุเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ทางการอิหร่านได้ประหารชีวิต นายชาห์ราม อามีรี นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ชาวอิหร่านด้วยการ “แขวนคอ” ในข้อหาเป็นสายลับให้สหรัฐอเมริกา
“ชาห์ราม อามีรี ถูกแขวนคอในข้อหาเปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดให้กับศัตรู” โกลามฮอสเซียน โมห์เซนี อีเจอี ระบุกับผู้สื่อข่าวที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ในวันเดียวกันนี้
รายงานระบุว่า อามีรี วัย 39 ปี ได้หายตัวไปในประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนมิถุนายน 2552 ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกาในอีก 1 ปีต่อมา
มีรายงานที่ขัดแย้งกันก่อนหน้านี้ ที่สร้างความสงสัยว่าอามีรีนั้นถูกลักพาตัว หรืออามีรี แปรพักตร์ในช่วงเวลานั้น ขณะที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านขึ้นถึงจุดสูงสุด
อามีรีสร้างความประหลาดใจด้วยการเดินทางกลับกรุงเตหะรานเมื่อปี 2553 โดยระบุว่า ตนถูกลักพาตัวไปจากเมืองเมดินา ในซาอุดีอาระเบีย ด้วยการใช้ปืนจี้โดยเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่พูดภาษาฟาซีได้
หลังกลับประเทศอามีรี ได้รับการต้อนรับในฐานะวีรบุรุษ โดยอามีรีบอกกับผู้สื่อข่าวหลังเดินทางถึงกรุงเตหะรานว่า ตนต้องต่อต้านแรงกดดันจากผู้ที่จับกุมตัวตนไว้ด้วยการแกล้งทำเป็นผู้แปรพักตร์ ขณะที่ลูกและภรรยามารับที่สนามบินพร้อมน้ำตา
อย่างไรก็ตาม เวลาต่อมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลอิหร่านนั้นไม่เชื่อข้ออ้างของอามีรี ก่อนที่อามีรีจะหายตัวไปจากสื่อสาธารณะ ขณะที่การจับกุมตัวอามีรีนั้นไม่เคยมีการรายงานอย่างเป็นทางการ
ด้านอีเจอี โฆษกหน่วยงานยุติธรรมอิหร่านระบุว่า หน่วยงานข่าวกรองของอิหร่านนั้นฉลาดกว่า และทางการอิหร่านรู้ว่าบุคคลผู้นี้เข้าถึงข้อมูลลับสุดยอดของอิหร่าน และส่งมอบข้อมูลนั้นไปให้กับศัตรูอย่างสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว