แอสตราเซเนกาจ่อทดลองเพิ่ม สยบข้อกังขาประสิทธิผลวัคซีนต้านโควิด
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า บริษัท แอสตราเซเนกา ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ที่จะทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยการทดลองใช้วัคซีนในปริมาณที่ลดลง โดยแผนการทดลองเพิ่มเติมมีขึ้นหลังจากนักวิทยาศาสตร์ออกมาแสดงความกังขาถึงประสิทธิผลของวัคซีนตัวนี้ของแอสตราเซเนกา/อ็อกซ์ฟอร์ดในผลการทดลองทางคลินิกในขั้นสุดท้ายที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้
นายปาสกาล โซเรียต ซีอีโอของบริษัทแอสตราเซเนกา กล่าวว่า ทางบริษัทอาจจะทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อประเมินผลการใช้วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในปริมาณที่ต่ำกว่า ซึ่งให้ผลดีกว่าการให้วัคซีนเต็มโดส
ทั้งนี้ในการเปิดเผยผลการทดลองขั้นสุดท้ายในวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาชี้ว่า ได้ประสิทธิผลในการยับยั้งป้องกันไวรัสโควิด-19 เฉลี่ยราว 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ในภายหลังแอสตราเซเนการะบุว่าวัคซีนตัวนี้ได้ผลมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์เมื่อให้วัคซีนเริ่มแรกในปริมาณครึ่งโดส จากนั้นให้วัคซีนอีกเต็มโดส
นายโซเรียตกล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าดูเหมือนว่าวัคซีนมีประสิทธิผลมากขึ้น ซึ่งเราจะต้องทำให้สมบูรณ์ ทำให้จำเป็นต้องทำการศึกษาทดลองเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามผู้บริหารของแอสตราเซเนกาเชื่อว่าการทดลองเพิ่มเติมนี้จะไม่มีผลทำให้การอนุมัติรับรองวัคซีนตัวนี้จากรัฐบาลอังกฤษและสหภาพยุโรปต้องล่าช้าออกไป
วันเดียวกันมีรายงานว่ารัฐบาลอังกฤษได้ขอให้องค์การควบคุมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (เอ็มเอชอาร์เอ) ทำการประเมินผลวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด/แอสตราเซเนกา เพื่อทำความเข้าใจข้อมูลและพิจารณาว่าวัคซีนดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ โดยขั้นตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนพิจารณาเพื่ออนุมัติรับรองวัคซีนเพื่อให้มีการแจกจ่ายได้ต่อไปภายในสิ้นปีนี้
