“ดอน”แจงคณะทูต หวังมิตรประเทศสนับสนุนไทย เข้าใจหากต้องการเวลาเปลี่ยนท่าที

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายศุภชัย ยาวะประภาษ สมาชิกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และนายเจษฎ์ โทณวณิก ที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมบรรยายสรุปเกี่ยวกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้กับคณะทูตานุทูตต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ และหอการค้าต่างประเทศ 80 คนจาก 48 แห่ง ประกอบด้วยเอกอัครราชทูต 11 คน อุปทูต 8 คน

ภายในการบรรยายสรุป นายดอน กล่าวว่า ในการจัดทำประชามติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ปรากฏตัวเลขผู้มาใช้สิทธิออกเสียงครั้งนี้ สูงกว่าเมื่อปี 2550 ซึ่งแสดงถึงความกระตือรือร้นของประชาชนในการมีส่วนร่วม และประชาชนส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญและคำถามเพิ่มเติม ทำให้มีความชัดเจนถึงแผนโรดแม็ปของรัฐบาล ว่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปี 2560 โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะยังเดินหน้าส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย และความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของประเทศในอนาคต

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้คณะทูตและผู้แทนต่างประเทศในช่วงถามตอบ ซึ่งทูตท่านหนึ่งสอบถามถึงการใช้อำนาจของ คสช. โดยนายดอน ระบุว่า คสช. จะยังคงมีอยู่จนกว่าจะมีการตั้งรัฐบาลใหม่

ด้านผู้แทนจากสวิสเซอร์แลนด์ ถามถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่างๆในการร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ โดยนายศุภชัย ระบุว่า กรธ. จะขอความเห็นเป็นเอกสารจากพรรคการเมืองต่างๆ และจะเชิญมาพูดคุยด้วย โดยจะเปิดรับฟังความเห็นให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และยืนยันว่า การมีส่วนร่วมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อให้ประชาชนรู้สึกยึดโยงกับรัฐธรรมนูญและระบบการเมืองใหม่

Advertisement

ขณะที่ผู้แทนจากสหภาพยุโรป ถามถึงช่วงเวลาการร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ โดยนายศุภชัย ระบุว่า ขณะนี้ได้มีการเริ่มร่างอย่างไม่เป็นทางการแล้ว เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงการรับฟังความเห็นประชาชนด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ผู้แทนคณะทูตยังสอบถามถึงการยกเลิกคำสั่งของคสช.ที่จำกัดเสรีภาพการชุมนุมและการแสดงออก นายดอน ระบุว่า เป็นไปได้ที่จะมีการผ่อนคลายคำสั่ง โดยขึ้นอยู่กับสภาพบ้านเมืองว่า ต้องมีความสงบเรียบร้อย และหวังว่าจะยกเลิกได้โดยเร็วเช่นกันเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ และให้ชาวไทยได้มีความสงบที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุย ส่วนตัวเห็นว่าประเทศไทยมีความปกติเรียบร้อย เห็นได้จากผลการสำรวจจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ยกให้ไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลก

“หวังว่าประเทศต่างๆ จะคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงในไทย ที่ทุกอย่างสงบเรียบร้อยและกำลังเดินหน้า และหวังว่าจะไม่มีการออกแถลงการณ์ต่างๆอีก และขอให้ต่างประเทศ เคารพการตัดสินใจของคนไทย และขอให้สนับสนุนการเดินหน้าของรัฐบาลต่อไปด้วย”นายดอนกล่าว

ผู้แทนคณะทูตรายหนึ่งถามแสดงความแปลกใจกับผลการลงประชามติที่ออกมาซึ่งต่างจากข่าวก่อนหน้านี้ นายดอนกล่าวว่า เป็นการแสดงออกของพลังเงียบ เนื่องจากวัฒนธรรมไทยไม่เหมือนตะวันตกที่คนจะพูดแสดงความเห็นของตนเองอยู่ตลอดเวลา แต่สังคมไทยผู้คนมักที่จะไม่แสดงความเห็นที่แตกต่าง แต่พลังเงียบเหล่านี้ได้ออกมาแสดงจุดยืนของตนผ่านผลการทำประชามติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนมากมองว่าประเทศมีความสงบเรียบร้อยมาตลอด 2 ปี และต้องการให้เป็นเช่นนี้ต่อไป

“สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยต่างจากในตำราในเรื่องคนในเครื่องแบบเข้ามายึดอำนาจ แต่ต้องถือเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่กองทัพจะเข้ามาแก้ปัญหาและประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน คุณไม่สามารถเอามาตรฐานบางอย่างมาใช้กับไทยได้เพราะเรามีวิธีจัดการกับปัญหาต่างๆ ในวิธีของเราเอง”นายดอนกล่าว

นายดอนกล่าวว่า หวังตัวแทนทูตจะนำเรื่องดังกล่าวไปชี้แจงให้กับประเทศของตัวเองรับทราบ และสถานเอกอัครราชทูตรวมถึงสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกก็จะชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ อีกทางหนึ่งด้วย โดยหลังจากนี้อาจเรียกประชุมเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่างๆ อีกครั้งหนึ่งเพราะสถานการณ์ในปัจจุบันมีพัฒนาการไปมาก มีบางอย่างต้องเน้นย้ำและพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน

เมื่อถามว่ายังมีประเทศที่ออกมาเร่งให้ไทยดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด นายดอนกล่าวว่า ใครที่ออกมาเร่งคงไม่รู้ว่ากระบวนการสร้างประเทศที่มั่นคงต้องใช้เวลา เพราะเราไม่ได้ข้ามถนนไปซื้อขนมที่เซเว่น แต่เป็นเรื่องของการสร้างอนาคตของชาติ เรากำลังเตรียมทุกอย่างเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงโดยต้องมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ที่มีเสถียรภาพและสันติสุข ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการไว้แล้วเพื่อให้ใช้เวลาที่มีให้ได้ประโยชน์มากที่สุด แต่บางประเทศก็แสดงออกชัดเจนว่ายินดีและพร้อมจะร่วมมือกับไทยต่อไป

“ส่วนที่บางประเทศอาจยังทำใจลำบากก็เข้าใจได้เพราะเขาอาจคิดโดยยึดติดกับข้อมูลเก่าๆ ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงท่าทีโดยฉับพลันได้ ซึ่งเราเข้าใจและหวังว่าจะไม่ต้องใช้เวลามากเพราะถ้าเขาเป็นมิตรประเทศก็หวังว่าจะมาร่วมมือกับเราหลังจากประชาชนคนไทยได้แสดงเจตนารมย์ที่ชัดเจนไปแล้ว แต่ทั้งหมดก็ขึ้นแยู่กับสถานการณ์ในไทยด้วย”นายดอนกล่าว และว่า ณ วันนี้กระทรวงการต่างประเทศไม่หนักใจอะไร เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นานาประเทศก็ได้มีการปรับเปลี่ยนท่าทีและมีปฎิสัมพันธ์กับไทยก่อนที่จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเสียด้วยซ้ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image