เปิดวิสัยทัศน์ “ธานี แสงรัตน์” โฆษกบัวแก้วคนใหม่

เปิดวิสัยทัศน์
“ธานี แสงรัตน์”
โฆษกบัวแก้วคนใหม่

0ทำหน้าที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศมาแล้ว 2 เดือนเป็นอย่างไรบ้าง และวางแผนการทำงานต่อไปอย่างไร

งานตรงนี้เหมือนมีพายุลงทุกวันโดยไม่ได้วางแผนไว้ก่อน ทั้งที่ในความจริงผมก็วางแผนการทำงานไว้พอสมควร ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็มีการจัดแถลงข่าวครั้งแรกโดยที่มีการเลือกหัวข้อที่คิดว่าน่าสนใจเอาไว้ล่วงหน้า เริ่มต้นจากเรื่องการนำคนไทยกลับบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเรามีข้อมูลค่อนข้างเยอะ ก็ได้ลงรายละเอียดให้ได้ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานพันธมิตรได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และสิ่งที่เราทำมีผลอะไรกับคนไทย

หลังจากนี้ก็ตั้งใจว่าจะมีการจัดแถลงข่าวเป็นระยะโดยจะดูจากเหตุการณ์ แต่พยายามจะจัดให้บ่อยขึ้น เพื่อให้มีเวทีในการสื่อสารกับสังคม บางเรื่องก็จะเป็นการให้ข้อมูลไว้ก่อนเพื่อให้สื่อสามารถเอาข้อมูลมาใช้ได้ในภายหน้า ทั้งหมดก็เพื่อที่จะสื่อสารและให้ข้อมูลกับสังคมให้มากขึ้น

เรายังมีเฟซบุ๊กไลฟ์ที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์เวลา 15.30 น. โดยจะมีการพูดคุยในหัวข้อต่างๆ ครั้งละ 30 นาที โดยจะมีการนำทางผู้ใหญ่และน้องๆ ข้าราชการของกระทรวงมาพูดคุยในประเด็นต่างๆ ที่ต้องมีเวลาในการอธิบายและยังจะมีการเชิญเครือข่ายคนรุ่นใหม่ อาทิ คนที่ทำสตาร์ทอัพ และแอนิเมชั่น มาให้ความเห็นและมุมมองทางสังคมเกี่ยวกับต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชนและผู้คนจากหลากหลายวงการ

Advertisement

เป้าหมายของเรานอกจากการสื่อสารเรื่องเกี่ยวกับงานของกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลในด้านการต่างประเทศแล้วยังมี 2 เรื่องสำคัญ ประการแรกคือการลดช่องว่างและลดความเหลื่อมล้ำ โดยเราจะใช้เวลาไปกับการพูดคุยในประเด็นที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้น อาทิ การประชุมสุดยอดอาเซียนที่ผ่านมา หรือการลงนาม ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) คนไทยจะได้ประโยชน์อะไร เป็นการย่อยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ

ประการที่สองคือการลดช่องว่างระหว่างวัย เพราะขณะนี้บ้านเรามีประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นค่อนข้างมาก ตั้งใจจะใช้กลไกที่มีช่วยส่งเสริมความเข้าใจในสังคม เราต้องให้โอกาสคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะเขาคืออนาคต แต่ผู้ใหญ่ก็มีประสบการณ์ที่สามารถจะแบ่งปันกันได้ เราต้องรับฟังกัน และผมเชื่อว่าสิ่งที่คนรุ่นใหม่เรียกร้อง 80-90% เราเห็นด้วยในหลายเรื่อง เพราะเราทุกคนก็อยากเห็นสังคมไทยพัฒนาไปข้างหน้า ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจหรือสังคม แต่จะพัฒนาไปร่วมกันได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้ก็เป็นประเด็นที่เราอยากสนับสนุนให้เกิดขึ้นผ่านช่องทางการทำงานที่เรามีอยู่

นอกจากนี้ยังตั้งใจจะพัฒนาสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งทุกวันนี้มันไปไกลมากแล้วแต่กระทรวงยังใช้น้อยมาก ต้องมีการปรับปรุงอีกเยอะ เพราะมีเทคโนโลยีที่สามารถนำมาช่วยในการสื่อสารได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊กของเรา ไปจนถึงไอจี พ็อดแคสต์ หรือวิดีโอ ซึ่งเรายังใช้น้อย หลังจากนี้ก็ต้องทำให้มากขึ้น ปรับให้เข้ากับยุคสมัย แม้กระทั่งการปรับวิธีการเขียนเพื่อให้คนอ่านสนใจและโดนใจประชาชนมากขึ้น

เท่าที่ดูข่าวของกระทรวงที่คนส่วนใหญ่แชร์มักจะเป็นข่าวเกี่ยวกับกรมการกงสุล เพราะเป็นเรื่องของประชาชนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของเรา ดังนั้นการเขียนข่าวก็ต้องไม่เป็นนักวิชาการ ใช้ศัพท์แสงสูง เพราะจะทำให้คนเบื่อ วิธีการนำเสนอก็คงต้องมีการปรับปรุง ซึ่งคงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องใช้เวลา

ในระหว่างนี้ที่พอจะมีเวลาผมก็เดินสายไปพบปะกับสื่อมวลชนทั้งสื่อในประเทศและสื่อต่างประเทศ ซึ่งทำให้รู้ว่ามีช่องทางที่เราจะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการทำงานของเราได้อีกมาก เราต้องปรับวิธีคิดและทัศนคติ โดยในอนาคตจะเชิญผู้มีความรู้และมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานเหล่านี้มาให้ความรู้ทั้งต่อข้าราชการในกรมสารนิเทศและกรมอื่นๆ ที่เขามีความสนใจ ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ในระหว่างการเตรียมการ

นอกจากนี้เรายังมีโครงการที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกองการทูตวัฒนธรรมคือโครงการ “เงาฝรั่งบนฝั่งอยุธยา” ที่มีแผนจะพาสื่อมวลชนทั้งต่างประเทศและสื่อมวลชนไทยเดินทางไปอยุธยา เพื่อสร้างความเข้าใจว่างานการทูตของเราในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในยุคสมัยต่างๆ สามารถช่วยกันนำพาประเทศไทยให้รอดผลจากภัยอันตรายมาได้อย่างไร และยังสะท้อนให้เห็นความเป็นสังคมนานาชาติที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บางครั้งเมื่อเรามีภัยคุกคามในยุคสมัยต่างๆ สถาบันพระมหากษัตริย์ของเราได้นำพาประเทศชาติอย่างไร หลังจากนั้นยังมีวางแผนที่จะพาไปชมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อชมประวัติศาสตร์ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์

ประวัติศาสตร์จะทำให้เราเข้าใจปัจจุบัน และปัจจุบันจะทำให้เรามองถึงอนาคต ถ้าเราไม่รู้ประวัติศาสตร์เราก็จะไม่เข้าใจปัจจุบัน แล้วเราจะวางแผนอนาคตได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมอยากให้พี่น้องคนไทย เยาวชนไทย รวมทั้งพวกเราที่เป็นข้าราชการได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทยให้มากขึ้น แล้วเราจะสามารถร่วมมือกันได้มากยิ่งขึ้นเพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของเรา ประเทศไทยมีวิธีที่จะไม่เผชิญหน้า หรือสู้จนตัวตายแล้วยอมเสียเอกราช ซึ่งเป็นวิธีทางการทูตของเรา บางทีมันจะไม่ได้เป็นบวกทั้งหมด แต่มันก็เป็นลักษณะของเราที่เราควรต้องรู้จักตนเอง

ในส่วนของกองประมวลและวิเคราะห์ข่าวก็มีแผนที่จะพาสื่อไปเยี่ยมชมบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลอง และยังมีแผนที่จะพาสื่อไปเยี่ยมชมโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกด้วย

การทำงานของผมที่กรมสารนิเทศยึดหลัก 4 ซี คือ 1. Continuity คือความต่อเนื่อง สิ่งใดที่ดีอยู่แล้วก็ต้องทำต่อไป 2. Circular คือให้หมุนเวียนเอาทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3. Creative มีการทำงานอย่างสร้างสรรค์ และ 4. Celebrate คือต้องมีการส่งเสริมรวมถึงขยายผลในสิ่งที่เป็นจุดแข็งของประเทศ โดยหลักการนี้ถือเป็นทั้งเป้าหมายและวิธีการทำงานในเวลาเดียวกัน

0การทำงานของกระทรวงต่างประเทศในขณะนี้ถือว่ามีความท้าทายสูง เพราะมีการนำเรื่องต่างประเทศมาเป็นประเด็นการเมืองในประเทศค่อนข้างมาก

ขณะนี้ถือว่าแทบจะแยกกันไม่ออกระหว่างประเด็นภายในประเทศกับประเด็นระหว่างประเทศ จนเราเรียกประเด็นเช่นนี้ว่า Intermestic คือเอาเป็นเด็น International กับ Domestic มารวมกัน สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและในบ้านเราเชื่อมโยงกับต่างประเทศอย่างแยกกันไม่ออก สะท้อนให้เห็นได้ทั้งจากในสื่อต่างประเทศ และชุมชนคนไทยทั่วโลกว่าเขามีการสื่อสารเหมือนอยู่เมืองไทย ประเด็นต่างๆ ที่พูดคุยก็เป็นเรื่องเดียวกันถึงแม้จะอยู่คนละที่ กลายเป็น Global Village

สิ่งท้าทายของกระทรวงการต่างประเทศคือเราต้องทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นในประเด็นที่เขาคุยกันไม่ว่าจะในประเทศไทย ในชุมชนไทยที่ต่างประเทศ ไปจนถึงในสื่อต่างประเทศ เป้าหมายของเราคือการสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง การชี้แจงของหน่วยงานราชการเราจะบิดเบือนไม่ได้ แต่สิ่งที่จะลดความขัดแย้งคือต้องใช้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

ที่ผ่านมามีการระบุว่ามีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมเกินไปหรือไม่ สัดส่วนการกระทำของเจ้าหน้าที่เหมาะสมหรือไม่ เราก็นำเอากฎหมายระหว่างประเทศและพระราชบัญญัติการชุมนุมในประเทศมาพิจารณา หากเป็นการตีแผ่ข้อเท็จจริงก็จะน่าช่วยลดความเข้าใจผิดได้ในระดับหนึ่ง

อย่างการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ผู้ชุมนุมพยายามจะทำลายแนวต้านเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนหลายครั้งและมีการถอยร่นไปให้แล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้น้ำฉีด จะเห็นได้ว่าตำรวจทำเป็นขั้นตอน เราก็ต้องเอาข้อเท็จจริงมาแสดงให้ปรากฎว่าไม่ได้เป็นการใช้กำลังเกินเลย และไม่ได้เป็นสัดส่วนมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้น

การทำงานในขณะนี้ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เราต้องเท่าทันเหตุการณ์ ตรงประเด็น และพร้อมจะให้ข้อมูลให้มากที่สุด

0แต่ดูเหมือนทุกวันนี้คนจะฟังและเชื่อข้อมูลจากฝ่ายที่เขาอยากจะเชื่อมากกว่า จะทำให้การทำงานลำบากขึ้นหรือไม่

เราดูข้อเท็จจริงซึ่งมันเถียงไม่ได้เพราะเราเปลี่ยนข้อเท็จจริงไม่ได้ เราพูดตามหลักฐานที่มีอยู่จริง แต่ขณะนี้ต้องถือว่าเรามีประสบการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมพอสมควรมากกว่าสมัยในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งต้องให้เครดิตทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือผู้ชุมนุม

0ปัจจุบันเรื่องต่างประเทศถูกดึงเข้ามาเป็นเรื่องการเมืองในประเทศค่อนข้างมากในฐานะที่กระทรวงต่างประเทศต้องรับผิดชอบงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยตรง มองเรื่องนี้อย่างไร

เราเป็นห่วงเรื่องการชุมนุมและเหตุการณ์ในประเทศว่าจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นในประเทศไทย ทั้งเรื่องการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวโดยเฉพาะหลังโควิด-19 ที่การท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้น เวลาเกิดเหตุการณ์ขึ้นในไทยคนไม่ค่อยนึกถึงผลกระทบที่จะตามมาต่อประเทศไทยในสายตาของต่างประเทศ

กรมสารนิเทศต้องพยายามชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจขึ้นกับสังคมไทยว่าต่างประเทศเขามองอย่างไร ต้องสะท้อนให้คนไทยเห็นสิ่งนั้นว่าประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร เราต้องอธิบายให้คนไทยและสังคมไทยเข้าใจในแง่การต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สถาบัน

แม้แต่ประเด็นเรื่องประชาธิปไตยก็มีการถกเถียงกันเยอะ ผู้ชุมนุมบอกว่ารัฐบาลนี้เป็นการสืบทอดอำนาจจากรัฐบาลทหาร ทั้งที่ในความเป็นจริงต่างประเทศเขาไม่ได้ติดใจในประเด็นนี้ และมองข้ามประเด็นนี้ไปแล้ว เพราะรัฐบาลก็มาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายค้านเองก็มาจากการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ขณะที่การที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคถูกยุบไปก็มาจากศาลซึ่งถูกตั้งมาตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร แต่การชุมนุมเกิดขึ้นหลังจากนั้น

ในงานทั้งหมดที่ต้องทำ ประเด็นที่ผมให้ความสำคัญสูงสุดคือเรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องวัฒนธรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image