ดัชนีชี้ 115 ประเทศเสี่ยงสูงใช้แรงงานทาสยุคใหม่ในห่วงโซ่อุปทาน

The Atlantic

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ หรือ 115 จาก 198 ประเทศทั่วโลกมีความเสี่ยงสูงหรือว่าสูงมากที่จะใช้แรงงานทาสยุคใหม่ในห่วงโซ่อุปทาน อ้างอิงจากดัชนีการจัดอันดับทั่วโลกของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยงเวริสก์เมเปิลครอฟต์ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม โดยเกาหลีเหนือถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีประวัติด้านการใช้แรงงานเลวร้ายที่สุดในโลก ตามด้วยซูดานใต้ และดีอาร์คองโก

“มีประเทศจำนวนน้อยมากในโลกนี้ที่มีภูมิคุ้มกันในเรื่องแรงงานทาสยุคใหม่” นายอเล็กซ์ แชนเนอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการวิจัยสิทธิมนุษยชนของเวริสก์เมเปิลครอฟต์กล่าว

ข้อมูลจากดัชนีแรงงานทาสโลกประจำปี 2559 ของมูลนิธิวอล์กฟรีฟาวเดชั่นที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ระบุว่า มีผู้คนเกือบ 46 ล้านคนทั่วโลกที่อยู่ในสถานะทาสยุคใหม่ โดยถูกบังคับให้ทำงานในโรงงาน เหมืองแร่ หรือว่าฟาร์ม ถูกขายไปเป็นผู้ให้บริการทางเพศ ถูกบังคับให้แต่งงาน ถูกใช้เป็นทาสเพื่อล้างหนี้ หรือมีสถานะเป็นทาสมาตั้งแต่เกิด

นายแชนเนอร์เปิดเผยว่า ดัชนีของเวริสก์เมเปิลครอฟต์มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถรับรู้ถึงอัตราเสี่ยงของประเทศต่างๆ ที่ใช้แรงงานทาส โดยประเด็นเรื่องแรงงานทาสยุคใหม่ได้รับความสนใจมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่า มีการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวางตั้งแต่การประมง การทำเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ

Advertisement

ผลการวิจัยของเวริสก์เมเปิลครอฟต์ที่ใช้การประเมินจากข้อมูลด้านการค้ามนุษย์ แรงงานทาส กฎหมายในประเทศ และคุณภาพในการบังคับใช้กฎหมาย สรุปได้ว่า ประเทศผู้ผลิตและแปรรูปสินค้าโภคภัณฑ์ในทวีปเอเชียและแอฟริกามีความเสี่ยงสูงที่บริษัทต่างๆ จะใช้แรงงานทาสในห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาติยักษ์ใหญ่ด้านการส่งออกของเอเชียอย่างจีนและอินเดียที่อยู่ในหมวด “มีความเสี่ยงสูงมาก” เช่นเดียวกับประเทศที่เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ อาทิ ดีอาร์คองโก อิหร่าน และไอวอรีโคสต์

ขณะที่มีชาติตะวันตกที่ถือว่าเป็นประเทศเขตเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่เพียง 4 แห่งเท่านั้นที่ถูกจัดให้อยู่ในหมวด “มีความเสี่ยงต่ำ” คือ สหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ เยอรมนี เดนมาร์กและฟินแลนด์ ขณะที่หลายประเทศในยุโรป อาทิ สวีเดน ฝรั่งเศส และไอร์แลนด์ อยู่ในหมวดใกล้เคียงกับอันดับ “มีความเสี่ยงต่ำ”

ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว อังกฤษได้ออกกฎหมายต่อต้านแรงงานทาสฉบับใหม่ที่กำหนดให้บริษัทที่มีผลประกอบการมากกว่า 36 ล้านปอนด์ (ราว 1,600 ล้านบาท) ต้องส่งรายงานว่า มีมาตรการอย่างไรหรือได้ทำอะไรไปบ้างเพื่อขจัดการใช้แรงงานทาสให้หมดไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image