อาวุธใหม่! เกาหลีเหนืออวด ขีปนาวุธนำวิถียิงจากเรือดำน้ำ พุกกุกซง-5 โวทรงอานุภาพสุด
เกาหลีเหนือเปิดตัวอาวุธชนิดใหม่เป็น ขีปนาวุธนำวิถียิงจากเรือดำน้ำ(เอสแอลบีเอ็ม)รุ่นใหม่ ที่สื่อทางการเกาหลีเหนือชี้ว่าเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพมากที่สุดในโลก ในพิธีสวนสนามของกองทัพเกาหลีเหนือ ที่จัตุรัสคิมอิลซุง ในกรุงเปียงยาง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือร่วมชมในพิธี
ภาพถ่ายพิธีสวนสนามที่สำนักข่าวกลางเกาหลี(เคซีเอ็นเอ)นำออกเผยแพร่ในวันที่ 15 มกราคม แสดงให้เห็นนายคิม จอง อึน สวมเสื้อโค้ทหนังและหมวกสีดำ ยิ้มแย้มโบกมือให้ขณะกองทัพทหารเดินสวนสนาม พร้อมกับการเคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์หนักต่างๆ ทั้งขบวนรถถังและเครื่องยิงจรวดโจมตี ออกมาอวดโชว์แสนยานุภาพของกองทัพ โดยยังมีเครื่องบินทำการบินบนท้องฟ้าเป็นรูปเลข “8” แสดงการฉลองวาระประชุมใหญ่พรรคกรรมกรเกาหลีครั้งที่ 8 ที่ดำเนินมานานกว่าสัปดาห์ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
ภายถ่ายยังเผยให้เห็นขบวนรถบรรทุกนำขีปนาวุธเอสแอลบีเอ็มขนาดใหญ่ 4 ลูก ออกมาอวดโฉม ซึ่งเป็นขีปนาวุธนำวิถียิงจากเรือดำน้ำรุ่นใหม่ ชื่อ “พุกกุกซง-5” ที่สื่อทางการเกาหลีเหนือชี้ว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลานุภาพมากที่สุดในโลก โดยพัฒนาขึ้นมาจากเอสแอลบีเอ็มชื่อ พุกกุกซง-4 ที่เกาหลีเหนือเปิดตัวไปในพิธีสวนสนามของกองทัพในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
ยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาจากเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา สองชาติพันธมิตรที่จับตาความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด
แต่มีการตั้งข้อสังเกตจากผู้เชี่ยวชาญอย่างนายลีฟ-อีริก อีสลีย์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยอีฮวาในกรุงโซลของเกาหลีใต้ ที่มองว่าพิธีสวนสนามของเปียงยางโดยตัวมันเองไม่ได้ดูเป็นการยั่วยุ แต่เป็นสัญญาณที่น่าห่วงกังวลถึงการลำดับความสำคัญในภารกิจของเกาหลีเหนือ โดยแม้เศรษฐกิจจะทรุดหนักจากการปิดพรมแดนเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรค การบริหารจัดการผิดพลาดและการถูกแซงก์ชั่นจากนานาชาติ แต่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยังรู้สึกว่าจำเป็นจะต้องทุ่มเททรัพยากรหายากที่มีอยู่ไปกับการประกาศศักดาทางการเมืองการทหารของตนเองต่อไป
ขณะที่นายซอ คุน ยอล นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล กล่าวว่า ระดับพิสัยและการอัพเกรดขีปนาวุธเอสแอลบีเอ็มของเกาหลีเหนือไม่ได้สำคัญเท่ากับสารที่คิม จอง อึน พยายามส่งถึงจากการจัดประชุมพรรคครั้งใหญ่และจัดพิธีสวนสนามก่อนหน้าที่ ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐจะรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมที่จะถึง
