| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | มนต์ทิพย์ ธานะสุข |
| เผยแพร่ |
คอลัมน์ไฮไลต์โลก: เปิดครอบครัวหมายเลข 1 (ใหม่)สหรัฐ
วันพุธ(20 ม.ค)นี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำเนียบขาว หรือ ไวท์เฮาส์ ที่พำนักและสถานที่ทำงานหลักของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเปิดประตูต้อนรับ “ครอบครัวหมายเลข 1” ของสหรัฐครอบครัวใหม่ ให้ได้เข้ามาพำนักอย่างเป็นทางการ หลังโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนที่ 46 ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยในวันเดียวกัน
ครอบครัวหมายเลข 1 ใหม่ของสหรัฐ นอกจากจะมีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในวัย 78 ปี ที่ชาวอเมริกันรู้จักฝีมือกันดีจากการทำงานคร่ำหวอดในวงการเมืองสหรัฐมานานถึงครึ่งศตวรรษ เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว ยังมี
เดอะ เฟิร์ส เลดี้
จิล ไบเดน วัย 69 ปี ภรรยาคนที่ 2 หลังภรรยาคนแรกของไบเดนเสียชีวิต ซึ่งเป็นนักการศึกษา จบระดับปริญญาเอก ที่ยืนหยัดร่วมทุกข์ร่วมสุขกับไบเดนมานานกว่า 40 ปี กำลังจะรับบทบาทสำคัญในฐานะสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ จิล ไบเดน ผ่านประสบการณ์การทำหน้าที่สุภาพสตรีหมายเลข 2 มาแล้วถึง 2 สมัยเมื่อครั้ง โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในรัฐบาลบารัค โอบามา และเป็นปราการหลังอันแข็งแกร่งที่คอยผลักดันสนับสนุนในการรณรงค์สู้ศึกเลือกตั้งของโจ ไบเดนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
โดยในขณะที่จิล ไบเดน จะปฏิบัติหน้าที่ของสุภาพสตรีหมายเลข 1 ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ได้รับมอบหมาย แต่คาดหมายว่าเธอที่เหล่านักศึกษาเรียกขานกันติดปากว่า “ดอกเตอร์ บี” จะยังคงไม่ทิ้งงานสอนหนังสือในการเป็นอาจารย์ประจำสอนวิชาภาษาอังกฤษต่อไป
เดอะ เฟิร์ส ชิลเดรน
โจ ไบเดน มีลูก 3 คน เป็นลูกชาย 2 คน คือ โบ และ ฮันเตอร์ และลูกสาว 1 คน คือ นาโอมิ กับ เนเลีย ฮันเตอร์ ภรรยาคนแรกที่เสียชีวิตลงพร้อมกับลูกสาววัยทารกในโศกนาฏกรรมทางรถยนต์ในปีค.ศ. 1972 ซึ่งสร้างความเศร้าเสียใจให้กับไบเดนเป็นอย่างมาก ก่อนไบเดนจะมาพบรักและแต่งงานใหม่กับจิล ไบเดน ในปี 1977 โดยมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ แอชลีย์ ไบเดน
แต่เป็นเรื่องสุดเศร้าในชีวิตอีกครั้งของไบเดนเมื่อเขาต้องสูญเสียลูกชายคนโตที่ดูมีแววจะสืบสานการเดินในเส้นทางเดียวกับพ่อได้มากที่สุดไปจากโรคมะเร็งสมองในปี 2015 ขณะมีอายุได้เพียง 46 ปี
ส่วนฮันเตอร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอีกคน ที่ดูจะเป็นลูกไม้ห่างไกลต้น ต้องต่อสู้กับการติดสุราและยาเสพติด หลังเขาถูกปลดออกจากกำลังพลสำรองกองทัพเรือสหรัฐในปี 2014 หลังจากถูกตรวจพบว่าเสพโคเคน
ชื่อของ ฮันเตอร์ ตกอยู่ในสปอตไลท์เมื่อถูก โดนัลด์ ทรัมป์ แซะเรื่องการทำธุรกิจในประเทศจีนและยูเครนของเขาขึ้นมาว่ามีความไม่ชอบมาพากล เพื่อหวังผลทางการเมืองในศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐกับไบเดนในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา แม้ฮันเตอร์จะยอมรับว่าเขาอาจตัดสินใจได้แย่ในบางเรื่องของการทำธุรกิจ แต่เขาไม่เคยทำอะไรผิด
แอชลีย์ ในวัย 39 ปี ก็นับเป็นผู้หญิงเก่งที่เป็นทั้งนักสังคมสงเคราะห์ นักเคลื่อนไหว และแฟชั่นดีไซเนอร์ ผู้ทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมโดยมุ่งขจัดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ในประเทศ
เดอะ เฟิร์ส เพ็ทส์
หลังจากทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐในรอบกว่าศตวรรษที่ไม่มีการนำสุนัขเข้ามาเลี้ยงในทำเนียบขาว แต่ครอบครัวไบเดนจะพา “แชมป์” และ “เมเจอร์” สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด รวมถึงแมวตัวหนึ่งที่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยชื่อและสายพันธุ์ ย้ายเข้าไปอยู่ในทำเนียบขาวด้วย โดยแชมป์ เป็นสุนัขที่ครอบครัวไบเดนเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2008 ก่อนจะรับเมเจอร์มาเลี้ยงในปี 2018
โดยทั้งแชมป์และเมเจอร์ ยังเคยถูกนำมาร่วมงานโฆษณาแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งของไบเดนเชิงกระทบกระเทียบทรัมป์ และปรากฎตัวอยู่ในคลิปวิดีโอส่งสารอวยพรในเทศกาลคริสต์มาสของไบเดนด้วย
ก็รอดูกันวันจริงที่ครอบครัวหมายเลข 1 ย้ายเข้าทำเนียบขาวว่าจะมากันพร้อมหน้าพร้อมตาหรือไม่
