ไอร์แลนด์สั่งสตาร์บัคส์ จ่ายค่าเสียหายให้สาวไทย เกือบ 5 แสนบาท เหตุ พนง.วาดรูปลูกค้าตาตี่บนแก้วเครื่องดื่ม
เมื่อวันที่ 20 มกราคม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สตาร์บัคส์ ร้านกาแฟแบรนด์ดังระดับโลก สาขาในกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ถูกคณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านความสัมพันธ์ในสถานที่ทำงาน (ดับเบิลยูอาร์ซี) สั่งให้จ่ายเงินชดเชยความเสียหายจำนวน 12,000 ปอนด์ (ราว 492,000 บาท) ให้กับ น.ส.สุชาวดี โฟลีย์ สาวไทยที่เป็นลูกค้าซึ่งเข้ามาซื้อเครื่องดื่มมัทชะลาเต้ ที่ร้านกาแฟแบรนด์ดังสาขานี้ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2020 จากกรณีที่พนักงานสตาร์บัคส์สาขานี้ได้วาดรูปภาพ “ตาตี่” เป็นการทำเครื่องหมายลงบนแก้วเครื่องดื่มว่าเป็นของ น.ส.สุชาวดี ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ น.ส.สุชาวดี ผู้ร้องทุกข์ ที่บอกว่าทำให้ตนเองรู้สึกถูกละเมิดและถูกทำให้ด้อยค่าลง โดยดับเบิลยูอาร์ซีชี้ว่า น.ส.สุชาวดีถูกคุกคามทางเชื้อชาติภายใต้รัฐบัญญัติความเสมอภาคทางสถานะ
นายเควิน เบนแฮม เจ้าหน้าที่ของดับเบิลยูอาร์ซี ผู้วินิจฉัยชี้ขาดในกรณีนี้ กล่าวว่า เป็นสิ่งโต้แย้งไม่ได้เลยว่าพนักงานสตาร์บัคส์ได้วาดรูปยิ้มและรูปตาตี่บนแก้วเครื่องดื่มเป็นการทำเครื่องหมายว่าเป็นแก้วของ น.ส.สุชาวดี ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่ารูปวาดดังกล่าวมีความเกี่ยวโยงกับเชื้อชาติซึ่งเป็นการล่วงละเมิด
ขณะที่ในการไต่สวน น.ส.สุชาวดีบอกว่า เธอเป็นคนไอริช ซึ่งเธอและพ่อแม่ย้ายจากไทยมาอยู่ในไอร์แลนด์ตั้งแต่เธออายุ 5 หรือ 6 ขวบ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอพยายามจะบอกชื่อย่อของเธอให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ขณะสั่งเครื่องดื่มเพื่อที่จะได้เขียนชื่อเธอลงบนแก้ว แต่การกระทำดังกล่าวของพนักงานสตาร์บัคส์ทำให้เธอไม่พอใจและรู้สึกว่าตนเองถูกด้อยค่า
บีบีบีซีรายงานว่า นายเบนแฮมยอมรับว่าพนักงานคนดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ น.ส.สุชาวดีอับอายหรือรู้สึกไม่สบายใจ และว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดในส่วนของพนักงาน ซึ่งตัวเธอเองก็เสียใจ
ด้านพนักงานสตาร์บัคส์คนดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวบราซิล ได้ให้การผ่านล่ามว่า เธอได้วาดรูปใบหน้ายิ้มบนแก้วเครื่องดื่ม เนื่องจากเธอคิดว่าผู้ร้องทุกข์คือ น.ส.สุชาวดีนั้นดูมีเสน่ห์ ขณะที่เธอทำงานที่ร้านกาแฟสาขานี้ได้ราวหนึ่งเดือนก่อนจะเกิดเหตุขึ้น และว่า เธอได้รับการฝึกอบรมมาให้เป็นพนักงานที่ดีต่อลูกค้า
บีบีซีรายงานด้วยว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้มีสิ่งใดรุนแรงและผู้ร้องทุกข์ไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม ด้านโฆษกหญิงของสตาร์บัคส์ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อกรณีนี้ และว่า เราไม่ยอมให้เกิดการเลือกปฏิบัติใดๆ ที่สตาร์บัคส์
